เมื่อเร็ว ๆ นี้ Binance และ บริษัทย่อยในอินเดียได้จัดตั้งกองทุนใหม่เพื่อส่งเสริมการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศอินเดีย หลังจากที่ศาลฎีกาได้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้ธนาคารยุ่งกับ Bitcoin
Binance และ เว็ปเทรดคริปโต WazirX ซึ่งเป็นเว็ปเทรดที่ Binance ได้ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ล่าสุดเพิ่งประกาศเปิดตัวกองทุนใหม่ที่มีชื่อว่า “Blockchain for India” เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยพวกเขาจะทำการบ่มเพาะและลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพท้องถิ่นที่มีส่วนช่วยในพัฒนาโครงสร้างคริปโตที่มีความซับซ้อนและระบบนิเวศบล็อกเชนในภูมิภาคย่อยของอินเดีย
กองทุนใหม่นี้ได้พร้อมเปิดตัวมานานหลายสัปดาห์แล้ว หลังจากที่ศาลฎีกาอินเดียได้ยกเลิกคำสั่งห้ามของธนาคารกลาง ซึ่งขัดขวางไม่ให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ cryptocurrency เข้าถึงบริการทางการเงินของประเทศ โดยเว็ปเทรดบางแห่งได้รับการสนับสนุนแทบจะทันทีในเรื่องของการโอนเงินและบัญชีธนาคาร หลังจากที่มีการพิจารณาคดีของศาล
กองทุนใหม่ของ Binance จะทำการลงทุนทั้งในส่วนของการเข้าซื้อกิจการและโทเค็นที่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษที่บริษัทมองว่าสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการตลาดคริปโตได้อย่างเต็มรูปแบบในประเทศอินเดีย ซึ่งอาจรวมถึง fiat gateway , แพลตฟอร์มการโอนเงิน , โซลูชั่นของเหรียญ stablecoin หรือแอพลิเคชั่นใหม่สำหรับการเงินในรูปแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
กองทุนใหม่นี้จะทำการลงทุนในสตาร์ทอัพแห่งใดก็ได้ โดยมีงบจำกัดอยู่ที่ระหว่าง 1 แสนดอลลาร์ ถึง 5 ล้านดอลลาร์
นาย Nischal Shetty ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเว็ปเทรด WazirX กล่าวว่า “อินเดียนั้นมีกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีพรสวรรค์ด้านวิศวกรรมมากที่สุดในโลก” และเขายังกล่าวในแถลงการณ์อีกด้วยว่า “กองทุนใหม่นี้จะช่วยให้เราสามารถนำเอาศักยภาพที่น่าเหลือเชื่อของระบบนิเวศอินเดียบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่”
กองทุนใหม่นี้จะผลักดันให้มีการร่วมมือและการร่วมลงทุนกับกองทุนในท้องถิ่นแห่งอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน นาย Shetty กล่าว นอกจากนี้บริษัทยังมีความคิดริเริ่มที่จะสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี blockchain และโปรแกรมศูนย์บ่มเพาะในมหาวิทยาลัยอินเดียอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นเว็ปเทรด CoinDCX ซึ่งเป็นเว็ปเทรดคู่แข่งในมุมไบก็ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทจะมอบเงินสนับสนุนการศึกษาเป็นมูลค่ากว่า 3.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อส่งเสริมการยอมรับ cryptocurrency ในอินเดียด้วยเช่นเดียวกัน
ที่มา : coindesk
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น