แม้ว่าตลาดคริปโตจะยังคงอยู่ในช่วงซบเซามานานนับตั้งแต่ปี 2019 แต่ถึงกระนั้นวอลุ่มการซื้อขายรายวันก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตัวอย่างเช่นในช่วงเดือนเมษายน 2019 วอลุ่มการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 31,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่ Bitcoin มีมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ราว ๆ 30% ของตัวเลขเหล่านั้น วอลุ่มนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเราจะยังคงอยู่ในตลาดขาลงที่ยาวนาน แต่โอกาสสำหรับการเทรดก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
หนึ่งในองค์กรที่กำลังมองหาโอกาสที่จะนำการเทรดเหล่านั้นไปให้กับผู้บริโภคในชีวิตประจำวันนั่นก็คือ Kryll โปรเจคแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้นักลงทุนทุกระดับสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติของตัวเองได้อย่างง่าย ๆ
Kryll คืออะไร
Kryll เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถออกแบบและสร้างกลยุทธ์การซื้อขายคริปโตของตัวเองได้แบบอัตโนมัติ สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าการซื้อขายอัตโนมัตินั่นคืออะไร การซื้อขายหรือการเทรดแบบอัตโนมัตินั่นหมายถึง กิจกรรมการซื้อขายที่ดำเนินการโดยสคริปต์ที่มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้จึงนักเทรดจึงไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอเพื่อทำการซื้อขายด้วยตนเอง เพราะแพลตฟอร์มดังกล่าวจะทำหน้าที่นี้แทนคุณทั้งหมด
โปรโตคอลการซื้อขายอัตโนมัตินั้นมีประโยชน์อยู่หลายประการด้วยกัน ซึ่งสิ่งสำคัญประการแรกก็คือ เนื่องจากการซื้อขายอัตโนมัตินั่นไม่จำเป็นต้องมีการเฝ้ากราฟและเทรดด้วยตัวเอง ดังนั้นนักเทรดจึงสามารถนั่งลงและปล่อยให้กลยุทธ์เทรดแทน
ยิ่งไปกว่านั้นกลยุทธ์การซื้อขายอัตโนมัติยังสามารถทำงานได้แบบที่ไม่มีหยุดพัก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน นอกจากนี้และสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกประการก็คือ ถ้าหากนักลงทุนสามารถออกแบบกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพดีบนพื้นฐานที่สอดคล้องกัน พวกเขาก็มีโอกาสที่จะทำกำไรอย่างต่อเนื่องในรูปแบบ passive income
Kryll จะอนุญาตให้นักเทรดที่เพิ่งเคยใช้บอทเทรดครั้งและนักเทรดที่มีประสบการณ์ขั้นสูงสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดแบบกำหนดเองผ่านแพลตฟอร์ม โดยการลากและวางบนบล็อกที่ใช้งานได้ง่าย บล็อกเหล่านี้จะประกอบด้วยฟีเจอร์ด้านลอจิสติกส์ที่สำคัญ เช่น สัญญาณของตลาด รวมถึงตัวแปรที่มีวอลุ่มของตลาดและตัวชี้วัดการวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้อง
วิธีที่ทำให้คุณเข้าใจถึงโมเดลนี้ได้ง่ายที่สุดก็คือ การคิดถึงผลลัพธ์ของเงื่อนไข ‘if / when’ ของ Microsoft โดย ‘if’ จะเป็นตัวกำหนดเงื่อนไขของตลาด เช่น วอลุ่มการซื้อขายและ ‘when’ อาจเป็นวอลุ่มการซื้อขายที่เกิน $ 10,000 ล้านในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
สิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับโปรเจค Kryll ก็คือ ผู้ใช้สามารถรวมกลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติเข้ากับเว็ปเทรดคริปโตที่สำคัญ ๆ เช่นอย่าง Binance และ Bittrex ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถทดสอบกลยุทธ์อัตโนมัติของคุณในโหมดสาธิตก่อน แล้วค่อยนำใช้งานจริงได้อีกด้วยหรือที่เราเรียกว่าการ ‘Backtest’
การสร้างกลยุทธ์ : บล็อกทำงานอย่างไร
แม้ว่าแพลตฟอร์ม Kryll นั่นจะได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักเทรดในทุกระดับชั้น แต่ระบบบล็อกอาจดูค่อนข้างสับสน หากเรามองในแว๊บแรก
ดังนั้นเราจะมาพูดถึงวิธีการทำงานที่ค่อนข้างละเอียดเพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้นว่ากระบวนการสร้างกลยุทธ์นี้ทำงานอย่างไร
กระเป๋าวอเล็ท
ในการเริ่มต้นสร้างสิ่งต่าง ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องสร้างเลยก็คือ กระเป๋าเงินของคุณ เพราะสิ่งนี้จะแสดงให้คุณเห็นถึงพอร์ตโฟลิโอในกระเป๋าเงินสำหรับการสร้างกลยุทธ์ของคุณ
ราคาขึ้นและราคาลง
จุดประสงค์ของการสร้างบล็อกราคานั่นก็เพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวเมื่อราคาตลาดของคริปโตเคอเรนซี่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ในที่นี่เราจะเรียกว่าบล็อก ‘แบบมีเงื่อนไข’ โดยพื้นฐานแล้วคุณจะสามารถสั่งให้กลยุทธ์อัตโนมัติดำเนินการบางอย่างให้คุณได้ เมื่อมันตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และนี่คือตัวอย่างของสิ่งที่คุณสามารถทำได้
วิวัฒนาการของตลาด : คุณสามารถสั่งให้มีการซื้อขายแบบอัตโนมัติ เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวแบบเฉพาะเจาะจง โดยทำการซื้อขายตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถสั่งกลยุทธ์ให้ซื้อคริปโตหากราคาลดลง 10% และขายเมื่อมีราคาเพิ่มขึ้น 5%
คำสั่งซื้อครั้งสุดท้าย : คุณสามารถสั่งให้กลยุทธ์อัตโนมัติทำการซื้อหรือขายเมื่อราคาขึ้นหรือลงในอัตราเปอร์เซ็นต์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายครั้งสุดท้ายของคุณ ยกตัวอย่างเช่นหากคุณซื้อคริปโตที่ราคา $ 100 และบล็อกจะทำการระบุการเคลื่อนไหวเมื่อราคาเพิ่มขึ้น 5% จากนั้นกลยุทธ์ของคุณจะเริ่มทำงานเมื่อสินทรัพย์มีราคาอยู่ที่ $ 105
คำสั่งซื้อโดยเฉลี่ย : บล็อกนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการควบคุมกำไร โดยพื้นฐานแล้วกลยุทธ์นี้ถูกเรียกใช้โดยอิงจากราคาซื้อเฉลี่ยของคำสั่งซื้อก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อโทเค็นที่ราคา $ 80, $ 110 และ $ 170 คุณสามารถทำการซื้อขายอัตโนมัติอีกครั้งเมื่อราคาแตะ $ 120
วอลุ่ม
วัตถุประสงค์ของบล็อกวอลุ่มก็คือ การสั่งให้ทำการเทรดแบบอัตโนมัติ เมื่อตรงตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับวอลุ่มการซื้อขาย
การเริ่มต้นจากบล็อกสุดท้าย : สิ่งนี้จะมีประโยชน์อย่างมาก หากคุณต้องการดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อวอลุ่มเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับบล็อกก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น หากบล็อกก่อนหน้านี้ของคุณมีวอลุ่มตลาดอยู่ 1 ล้านดอลลาร์และคุณตั้งค่าทริกเกอร์ล่วงหน้าเมื่อวอลุ่มเพิ่มขึ้น 25% ดังนั้นการซื้อขายจะเริ่มดำเนินการเมื่อวอลุ่มของตลาดเพิ่มขึ้นถึง 1.25 ล้านเหรียญ
Rolling : สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถทำการซื้อขายตามเงื่อนไขวอลุ่มแบบเฉพาะเจาะจงเช่น ‘การเปรียบเทียบวอลุ่มกับช่วงเวลา’ กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณสามารถตั้งค่าบล็อกล่วงหน้าเพื่อให้การเทรดได้ หากวอลุ่มลดลง 50% ในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง
ความเป็นไปได้ขั้นสูง
นอกจากนี้ยังมีบล็อกที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขอื่น ๆ โดยตัวอย่างที่ระบุไว้ข้างต้นนั่นจะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการวางรากฐานสำหรับกลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติได้มากขึ้น
โดยคุณยังสามารถเพิ่มเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น “Or” หรือ “And” ซึ่งมันจะคล้าย ๆ กับฟังก์ชัน if / when ใน Microsoft Excel โดยคุณสามารถสร้างเลเยอร์เพิ่มเติมให้กับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณมากแค่ไหนก็ได้ ในความเป็นจริงยิ่งเลเยอร์ในกลยุทธ์ของคุณมีมากเท่าไหร่ความสามารถในการซื้อขายของคุณก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์เทรดขั้นสูง พวกเขายังสามารถแทรกบล็อกที่เชื่อมโยงกับตัวชี้วัดการซื้อขายทางด้านเทคนิคได้อีกด้วย ซึ่งรวมถึงแนวโน้มที่สำคัญ เช่นตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MACD) หรือตัวชี้วัด Bollinger
Kryll Marketplace
หากคุณชอบวิธีการทำงานของบอทเทรดแบบอัตโนมัติ แต่คุณยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยงกระโดดลงมาใช้มันด้วยตัวเอง มันก็อาจคุ้มค่าที่จะลองสำรวจตลาดของ Kryll โดยสังเขป โดย Kryll Marketplace นั่นจะประกอบไปด้วยกลยุทธ์การเทรดที่พร้อมใช้งานซึ่งถูกสร้างและออกแบบโดยผู้ใช้รายอื่น ๆ
กลยุทธ์จะมีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าผลลัพธ์จะสามารถตรวจสอบได้อย่างอิสระและกลยุทธ์ที่ใช้ก็สามารถออกความคิดเห็นและมีการให้คะแนนแบบสาธารณะ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถรวมกลยุทธ์ที่คุณเลือกเข้าแพลตฟอร์มสาธิตของคุณได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทดสอบผลลัพธ์ด้วยตัวคุณเอง
ในขณะที่กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติบางตัวนั้นฟรี แต่บางตัวก็มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามและเนื่องจากเราจะกล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ เมื่อคุณใช้กลยุทธ์ที่คุณเลือก (ไม่ว่าจะเป็นของคุณเองหรือเช่ามาจากผู้ใช้รายอื่น) คุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางแพลตฟอร์มของ Kryll
Kryll Token & อัตราค่าธรรมเนียม
แพลตฟอร์มของ Kryll มีการดำเนินการในระบบนิเวศออนไลน์ที่มุ่งหวังจะสร้างประโยชน์กับทุกคนที่ใช้มัน เพื่อเติมพลังให้ระบบนิเวศนี้แพลตฟอร์ม Kryll จึงได้สร้างโทเค็น ERC-20 ของตนเองขึ้นมาที่เรียกว่าโทเค็น KRL
โทเค็น KRL จะมีฟังก์ชันมากมายภายในแพลตฟอร์ม Kryll ก่อนอื่นเลยหากคุณตัดสินใจที่จะใช้กลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติของ Kryll ใน live mode ด้วยการรวมแพลตฟอร์มเข้ากับเว็ปเทรดคริปโตในที่อื่น ๆ คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมแบบผันแปร
ในขณะที่เขียนบทความนี้ค่าธรรมเนียมแบบผันแปรของผู้ใช้นั่นจะอยู่ที่ 0.0333% ต่อวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนเงินรวมที่คุณลงทุนไปในกลยุทธ์
ตัวอย่างเช่นสมมติว่า คุณกำลังใช้กลยุทธ์อย่างใดอย่างหนึ่งของคุณกับเว็ปเทรดคริปโตของ Binance ซึ่งมีการเทรดในสกุลเงินคริปโตไปเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น $ 1,000 ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรวม $ 1,000 x 0.0333% เป็นจำนวนเงินเท่ากับ $ 0.30
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบจากผลกำไร-ขาดทุนที่คุณได้รับจากกลยุทธ์
อับดับแรกเลยเราควรต้องทราบก่อนว่า มันมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับจำนวนของโทเค็น KRL ที่คุณมีอยู่ในบัญชีของคุณ หากคุณไม่มีโทเค็น KRL คุณจก็ะต้องเสียค่าบริการรายวันอยู่ที่ $ 0.06 สำหรับการใช้ฟีเจอร์ livetest และคุณจะไม่ได้รับส่วนลดจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายรายวันใด ๆ
แต่หากคุณถือครองเหรียญโทเค็นทั้งหมด 200,000 KRL (ใน pricing plan) หรือมากกว่านั้น คุณจะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายถึง 95% รวมถึงการลดค่าบริการสำหรับการใช้ฟีเจอร์ livetest ลงเหลือเพียง $ 0.01 ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถเพิ่มช่องบล็อกสำหรับการสร้างกลยุทธ์ได้มากถึง 60 ช่องอีกด้วย (จากเดิม 10 ช่องใน basic plan)
นอกจากนี้คุณอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในรูปแบบของเหรียญโทเค็น KRL หากคุณตัดสินใจที่จะเช่ากลยุทธ์การซื้อขายของผู้ใช้รายอื่น จำนวนนี้จะเป็นค่าธรรมเนียมมอบให้กับผู้ให้บริการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกลยุทธ์นั้น ๆ
กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติของ Kryll สามารถใช้ในเว็ปเทรดคริปโตไหนได้บ้าง ?
หากตอนนี้คุณพบกลยุทธ์ที่คุณชอบหรือคุณพร้อมที่จะนำกลยุทธ์การเทรดของคุณออกมาสู่โลกกว้าง คุณจะสามารถนำกลยุทธ์ลเหล่านั้นมาใช้ร่วมกับเว็ปเทรดคริปโตต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ :
- Binance
- Bittrex
- Liquid
แม้ว่าตอนนี้บอทเทรดของ Kryll จะครอบคลุมเว็ปเทรดคริปโตที่มีวอลุ่มเยอะที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Binance แต่ถึงกระนั้นทีมงานของ Kryll ก็ยังคงมองหาเว็ปเทรดคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในการรวมบัญชีเว็ปเทรดคริปโตของคุณเข้ากับแพลตฟอร์ม Kryll นั้น คุณจะต้องนำรหัสคีย์ API ที่ไม่ซ้ำกันของคุณมาใส่ในแพลตฟอร์ม ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้ Kryll มีอำนาจในการทำการซื้อขายอัตโนมัติในนามของคุณได้
แม้ว่ากลยุทธ์ของคุณจะทำงานได้แบบอิสระ แต่แพลตฟอร์ม Kryll จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบเว็ปเทรดของคุณได้ในภายหลัง สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะยังคงปลอดภัย
กระบวนการรับรหัสคีย์ API นั้นจะแตกต่างกันไปตามการเว็ปเทรดที่คุณใช้ อย่างไรก็ตามโดยส่วนใหญ่คุณสามารถกดรับคีย์ได้จากบัญชีพอร์ทัลของคุณ และเมื่อคุณมีแล้วคุณก็เพียงแค่ใส่มันในบัญชี Kryll ของคุณเท่านั้น
แพลตฟอร์มเทรดอัตโนมัติที่คล้ายกัน
ตอนนี้นอกเหนือจากแพลตฟอร์มเทรดคริปโตแบบอัตโนมัติของ Kryll แล้ว มันยังมีแพลตฟอร์มคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่ให้ข้อเสนอคล้าย ๆ กันเช่น :
- 3Commas
- Cryptohopper
- Cryptotrader
สรุป
Kryll นั่นได้สร้างผลิตภัณฑ์การเทรดที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมันจะเป็นการเปิดประตูสู่เทรดคริปโตรายวันให้กับนักเทรดมือใหม่สำหรับสร้างกลยุทธ์ในการเทรดหรือผู้ที่ไม่มีเวลาเทรดด้วยตัวเอง
ซึ่งกลยุทธ์การเทรดนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณเอง เพราะฉะนั้นหากคุณสามารถสร้างกลยุทธ์ที่ดีหรือเช่ากลยุทธ์อื่น ๆ มาจากตลาด Kryll Marketplace คุณก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
โดยหากใครสนใจสามารถสมัครได้ที่นี่
หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญคริปโตเคอเรนซีมีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี