Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการผลิต Chipset คอมพิวเตอร์ ยังคงถูกฟ้องร้องจากนักลงทุนที่ไม่พอใจและถูกกล่าวหาด้วยว่ารายงานยอดขายฮาร์ดแวร์ที่ใช้ไปในหมู่นักเล่นเกมนั่นมีการบิดเบือน
อ้างอิงข้อมูลจาก theregister ที่เผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นได้กล่าวหาบริษัท Nvidia ว่าพยายามบิดเบือนข้อมูลยอดขายหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ที่ใช้สำหรับการขุดคริปโตว่ามาจากการเล่นเกม
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นได้กล่าวหา CEO Jensen Huang , CFO Collette Kress และรองประธานฝ่ายอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายเกมมิ่ง Jeff Fisher ของ Nvidia ว่าพวกเขานั่นมีส่วนเกี่ยวข้องในยอดขายที่เพิ่มขึ้นของการ์ดจอรุ่น GeForce ในช่วงที่การขุดคริปโตนั่นเป็นกระแสในสังคม
คดีความนี้ได้ยื่นต่อศาลครั้งแรกเมื่อปี 2017 ในช่วงที่มีกระแสคริปโตฟีเวอร์ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคดีนี้ดูเหมือนจะถูกนำกลับมายื่นต่อศาลแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง
โจทก์อ้างว่า “จำเลยได้เลือกใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการ์ดจอ Nvidia GeForce และบอกกับนักลงทุนว่ายอดขายของการ์ดจอ GeForce นั้นมาจากนักเล่นเกมไม่ได้มาจากนักขุด” จากนั้นพวกเขากล่าวหาว่าบริษัททำให้มันดูเหมือนว่ารายได้ที่ได้รับจากการขุดนั่นถูกปกป้องด้วยราคาที่ผันผวนขึ้น ๆ ลง ๆ ของตลาดคริปโต
“จำเลยปฏิเสธที่จะยอมรับต่อสาธารณชนว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นของการ์ดจอ NVIDIA นั่นเป็นผลมาจากการขุดคริปโต เพื่อป้องกันมิให้นักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทที่อาจเกี่ยวโยงกับความผันผวนของตลาดคริปโต”
ในปี 2018 ราคาหุ้นของ Nvidia ได้ปรับตัวร่วงลดลงกว่า 20% หลังจากที่ความต้องการในการขุดเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากราคาคริปโตได้ร่วงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นด้วยกำไรลดลง เหล่านักขุดจึงถูกบังคับให้ต้องยอมแพ้และล้มเลิกกิจการของพวกเขาไป
จากการพิจารณาของคณะลูกขุน กลุ่มผู้ถือหุ้นได้พบความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของบริษัทและเหล่าผู้บริหารของบริษัท โดยพวกเขากล่าวว่านี่เป็นการฝ่าฝืนกฏหมายการแลกเปลี่ยนของสหรัฐอเมริกาสำหรับการบิดเบือนข้อมูลความจริงที่ว่ารายได้ของ Nvidia นั่นมาจากนักเล่นเกม ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลต่อหุ้นของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : coindesk