เหรียญความเป็นส่วนตัว ซึ่งรวมถึง Monero, Dash, Grin, Zcash และ Zcoin มีความเสี่ยงที่จะถูกฟอกเงินน้อยกว่าเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ อ้างอิงจากรายงานของสำนักงานกฎหมายระดับโลก
จากเอกสาร white paper ฉบับล่าสุดที่เผยแพร่โดยบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา Perkins Coie ระบุว่ามาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ที่ดำเนินการโดยหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกนั้นเพียงพอแล้วที่จะแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่เกิดจากเหรียญความเป็นส่วนตัวและอาจไม่จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลเพิ่มเติม
เอกสารดังกล่าวอ้างถึงเหรียญที่เหมาะสมภายใต้โครงสร้างการกำกับดูแลทางการเงินของปัจจุบันที่ใช้โดย U.S. Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN), the New York Department of Financial Services (NYDFS), Japan’s Financial Services Agency (FSA), the U.K.’s Financial Conduct Authority (FCA) และ the Financial Action Task Force (FATF).
“เหรียญความเป็นส่วนตัวมีความเสี่ยงที่จะถูกฟอกเงินน้อยกว่าเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ เมื่อพิจารณาจากหลักฐานการใช้งานที่ผิดกฎหมายในทางปฏิบัติ” เอกสาร white paper ระบุ
“นอกจากเหรียญความเป็นส่วนตัวจะมีความเสี่ยงอย่างที่น้อยกว่าเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ แล้ว กฎระเบียบ AML ที่มีอยู่ยังครอบคลุมความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างเหมาะสมและเพียงพออีกด้วย”
รายงานระบุว่าในขณะที่ธุรกรรมส่วนใหญ่ที่ทำด้วยสกุลเงินดิจิทัลนั้นถูกต้องตามกฎหมาย แต่เหรียญความเป็นส่วนตัวสามารถให้ประโยชน์ที่ “มีมากกว่า” ในแง่ของความเสี่ยงด้านการใช้งาน โดยพบว่ามากกว่า 90% ของ Address ที่ใช้กันอยู่ใน Darknet ส่วนใหญ่เป็นของ Bitcoin (BTC) , 0.3% สำหรับ Dash (DASH) , Monero (XMR) , Zcash (ZEC) และ Zcoin(XZC) รวมกัน
“ประเด็นสำคัญก็คือเหรียญความเป็นส่วนตัวจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการฟอกเงินอย่างแท้จริง”
หนึ่งในวิธีที่เหรียญความเป็นส่วนตัวสามารถแยกตัวเองออกมาจากวิธีการฟอกเงินด้วยคริปโตก็คือ พวกมันยังคงจัดทำบันทึกในการโอนบางรูปแบบ โดยมากกว่า 90% ของการฟอกเงินยังคงตรวจสอบไม่พบ เนื่องจากรูปแบบการชำระเงินที่ไม่ใช่คริปโตสามารถชำระเงินข้ามพรมแดนได้โดยไม่ต้องใช้ประโยชน์จากการบันทึกข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชน
“ในท้ายที่สุดไม่มีหลักฐานว่ากฎระเบียบการฟอกเงินที่มีอยู่ไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากเหรียญความเป็นส่วนตัวได้อย่างเพียงพอและไม่มีเหตุผลที่จะกำหนดข้อกำหนด AML ขึ้นมาใหม่” อ้างอิงตามเอกสาร white paper
ที่มา : cointelegraph