รายงานล่าสุดจาก Messari ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับ $ 10,000 ได้ยาวนานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์และทำลายสถิติเดิมก่อนหน้านี้ที่ 62 วัน ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2017 ถึง 31 มกราคม 2018
ในขณะนี้ Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับ 10,000 ดอลลาร์ ได้นานติดต่อกันถึง 63 วันแล้ว แต่แนวโน้มดังกล่าวไม่ได้แสดงให้เห็นช่วงขาขึ้นหรือขาลงอย่างชัดเจน โดยราคามีการซื้อขายกันอยู่ที่ระหว่าง 10,000 ดอลลาร์ถึง 12,500 ดอลลาร์ นับตั้งแต่วันที่ 27 กรกฏาคม
นอกจากนี้ปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ ที่รายงานโดย CoinMetrics ยังระบุด้วยว่าผลตอบแทนของ Bitcoin ในช่วง 180 วันที่ผ่านมาร่วงลดลงกว่า 41% ในเดือนกันยายนนี้เพียงอย่างเดียว แต่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เกิดอะไรขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา? ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
การใช้อัตราเลเวอเรจของ Bitcoin กำลังลดน้อยลง ?
ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา สัญญาฟิวเจอร์ของ Bitcoin ที่ถูกเปิดไว้ (Open Interest)ได้ถูกลบหายไปทั้งหมด ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีการ Liquidated สัญญาฟิวเจอร์สในเว็ปเทรด Bitmex เป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอัตรา funding rate (ค่าธรรมเนียมที่ฝั่งผู้ซื้อหรือฝั่งผู้ขายต้องจ่ายให้กัน หากสัญญาฝั่งใด ฝั่งหนึ่งมีการเปิดเยอะกว่า) ของ Bitcoin ยังคงติดลบหรือค่าเป็นกลาง แม้ว่าราคาจะร่วงลดลงก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ขายกำลังเปิด Short position ที่มากจนเกินไป
นอกจากนี้นักเทรดที่เทรดด้วยการใช้ leverage ยังน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากความไม่ชัดเจนของตลาด การใช้อัตรา leverage ที่ลดลงนี้ส่งผลให้ความผันผวนของตลาดลดลง ดังนั้นเป็นไปได้ว่าโอกาสที่ Bitcoin จะเกิดการปรับฐานลงราคาอย่างรุนแรงเหลือน้อยลงเต็มที
นอกจากนี้เจ้ามือ Bitcoin กำลังเก็บสะสมเหรียญของพวกเขามากขึ้น โดยระหว่างวันที่ 24 กันยายนถึง 27 กันยายนมีการเข้าซื้อ Bitcoin จำนวน 150,000 BTC ที่ช่วงราคาระหว่าง $10,400 ถึง $10,700 โดยราคาได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 450 ดอลลาร์ในขณะนั้น
อย่างไรก็ตามผู้คนคาดหวังว่าจะได้เห็นราคา Bitcoin ร่วงลงเหลือ $ 8,500 – $ 9,500 อีกครั้ง ก่อนที่ตลาดจะปรับตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในรอบต่อไป ซึ่งเราจะต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ?