อย่างที่เราทราบกันดีว่า Libra เป็นเหรียญ Stablecoin ที่เชื่อมโยงกับ Facebook มีเป้าหมายความทะเยอทยานที่สูงเอามาก ๆ และพวกเขาอาจจะหลุดพ้นจากฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ได้เร็วที่สุดภายในช่วงเดือนมกราคม 2021 นี้ แม้จะถูกจำกัดทางด้านกฎหมายก็ตาม
ในตอนแรกโปรเจคเหรียญ Stablecoin ของ Facebook ได้เสนอให้ตรึงมูลค่าของเหรียญ Libra ไว้ในตะกร้าสกุลเงินทั่วโลกที่ประกอบไปด้วยสกุลเงินหลากหลายสกุล แต่สุดท้ายโครงการของ Facebook ก็ต้องหยุดชะงักลงไปในเดือนเมษายน เนื่องจากต้านแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากฝ่ายนิติบัญญัติในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ
หัวหน้าโปรเจคประกาศว่า Libra จะสามารถเปิดตัวกลุ่มเหรียญ Stablecoin ได้แต่มีเงื่อนไขละกลุ่มนั้นจะต้องถูกอิงอยู่กับสกุลเงินเฟียตในแต่ละประเทศ แทนที่จะเป็นตะกร้าหลายสกุลเงิน
ตอนนี้ “Global stablecoin” ของ Libra จะสามารถเปิดตัวเป็นเหรียญ Stable coin ที่ได้รับการค้ำประกันเป็นเงินดอลลาร์อยู่เบื้องหลังในสัดส่วนแบบ 1 : 1 ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสวิส
สกุลเงินอื่น ๆ ภายในตะกร้า ยังคงมีโอกาสได้เปิดตัวในเวลาต่อมา แต่เหรียญ Stable coin ที่ตรึงมูลค่าไว้กับเงินดอลลาร์นั้นจะสามารถเปิดตัวได้เร็วที่สุดในเดือนมกราคม ตามข้อมูลของ FT
Facebook เปิดตัวโครงการ Libra ในเดือนมิถุนายน 2019 โดยประกาศวิสัยทัศน์ของ เหรียญ Stablecoin ที่ถูกใช้กันในระดับโลก
อย่างไรก็ตามมันต้องเผชิญกับปัญหาด้านกฎระเบียบจากฝ่ายนิติบัญญัติทั่วโลก ซึ่งอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของ Libra ในการคุกคามเสถียรภาพทางการเงินหรือการถูกใช้งานเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน
สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ยังได้ก่อตั้งสมาคม Libra Association ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสำหรับโครงการนี้ในปีต่อมา โดยตอนนี้มีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 27 คน
เนื่องจาก Facebook ตกลงที่จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด ด้วยการตรึงมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1 : 1 ดังนั้นสิ่งนี้อาจช่วยทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ สงบลงได้ นอกจากนี้โครงการนี้ยังต้องคงเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลพยายามที่จะจำกัดอุตสาหกรรมการชำระเงินแบบดิจิทัลและสั่งระงับการทำธุรกรรมระหว่างผู้ส่งและผู้รับเพื่อตรวจสอบธุรกรรมของพวกเขา
ซึ่งเราจะต้องรอดูกันต่อไปว่าเหรียญ Stablecoin ของ Facebook จะสามารถเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้าได้จริงหรือไม่ และหาก Facebook สามารถเปิดตัวได้สำเร็จ มันจะถือว่าเป็นข่าวเขย่าวงการคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเราเคยเห็นมา
ที่มา : coindesk