ที่อยู่ address ที่มีการใช้งานไม่ซ้ำกันบนเครือข่าย BTC ได้มีการบันทึกระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม2021 เนื่องจากราคาสินทรัพย์ได้พุ่งสูงขึ้นเหนือกว่า40,000 ดอลลาร์
เมื่อเดือนมกราคม 2021 ถือเป็นอีกหนึ่งเดือนที่ Bitcoin จะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ crypto เมื่อ BTC นั้นได้ทำสถิติหลายอย่าง ไม่ว่าจะทั้งราคา BTC ที่ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อัตรา Hash rate และความยากในการขุด ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลล่าสุดระบุว่าจำนวนที่อยู่ที่ทำธุรกรรมไม่ซ้ำกันบนเครือข่ายก็สูงกว่าสถิติเดิมเมื่อสามปีก่อน
Bitcoin ทุบสถิติใหม่หลายตัว
จากข้อมูลของ Glassnode พบว่า จำนวนที่อยู่ที่ไม่ซ้ำกันบนเครือข่าย Bitcoinไม่ว่าจะเป็นการโอนหรือรับเหรียญได้สร้างสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 22.3 ล้านในเดือนมกราคม 2021
ตัวเลขนี้แซงหน้าสถิติเดิมที่มีมาตั้งแต่ปลายปี 2017 ซึ่งที่อยู่ในช่วงเวลานั้นมีไม่ถึง 22 ล้านด้วยซ้ำ
เมื่อดูกราฟด้านบนสามารถสันนิษฐานได้ว่าราคา bitcoin ที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังaddress ที่ไม่ซ้ำกันครั้งนี้ โดยสถิติก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อ BTC พุ่งไปที่ 20,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาลในเวลานั้น
ในขณะที่สินทรัพย์ได้เข้าสู่ตลาดหมีตลอดทั้งปีหลังจากที่ทำจุดสูงสุดในปี 2018 ที่อยู่ดังกล่าวได้ลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งมีการพุ่งขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงที่ราคาเพิ่มขึ้นในช่วงสั้น ๆ เมื่อเดือนมิถุนายน 2019
ในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของราคาในช่วงปลายปี 2020 เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเริ่มกลับมาเป็นตลาดกระทิงอีกครั้ง โดยราคาได้ทะลุระดับ 20,000 ดอลลาร์ และได้แตะจุดสูงสุดที่ 42,000 ดอลลาร์ในต้นเดือนมกราคมเมตริกเครือข่ายอื่น ๆในเดือนมกราคมที่ผ่านมา BTC ได้ทำสถิติหลายอย่าง ได้แก่ ความยากในการขุดและอัตรา hash rate โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ความยากในการขุดทะลุ 20 ล้านล้านเป็นครั้งแรกในขณะที่hash rate เกิน 150,000,000 TH/s
นักลงทุนแห่ถือ Bitcoin เพิ่มขึ้น?
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Glassnode ชี้ให้เห็นว่านักลงทุน bitcoin อาจหลีกเลี่ยงจากการถอนกำไรล่าสุดที่พวกเขาได้
ตัวอย่างเช่นยอดของ BTC ที่มีการแลกเปลี่ยนได้แตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี ซึ่งอยู่ที่ 2.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นช่วงประมาณหนึ่งเดือนก่อนที่ราคาของ bitcoin จะทำจุดสูงสุดที่ 42,000 ดอลลาร์
อุปทานของเหรียญที่ไม่ได้เคลื่อนไหวในหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นได้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนที่ 57% ถือว่าเป็นการลดลงอย่างมากจากช่วงกลางปี 2019 ซึ่งตัวชี้วัดเดียวกันอยู่ที่เกือบ 65%
ท้ายที่สุดแล้วความคืบหน้าดังกล่าวได้ทำให้เกิดการพูดคุยกันภายในชุมชนนักเทรด crypto ว่าปริมาณสภาพคล่องที่ลดลงของ bitcoin อาจทำให้สินทรัพย์เข้าสู่วิกฤตสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องได้