<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รัฐบาลจีนยังคงพยายามเตือนความจำบริษัทเทคในประเทศว่าใครใหญ่สุด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รัฐบาลจีนตั้งใจที่จะปราบปรามการผูกขาดต่อไป ด้วยเหตุนี้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กว่า 12 แห่งในจีน รวมถึง Alibaba, Tencent และ Baidu กำลังเจอกับค่าปรับและกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

“ขจัดพฤติกรรมที่ต่อต้านต่อการแข่งขันทางธุรกิจในปี 2021”

Eunice Yoon ผู้สื่อข่าวอาวุโสของ CNBC ประเทศจีน เผยว่า ประเทษจีนกำลังจะเพิ่มความพยายามในการดำเนินการธุรกิจที่มีลักษณะผูกขาด (monopolies)

การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ Ant Group ล้มเหลวในการทำ IPO และระดมทุน กว่า 37 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

เมื่อปีที่แล้วหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นได้กดดันบริษัท ในเครืออาลีบาบา ให้ดำเนินการภายใต้กฎเกณฑ์และข้อกำหนดด้านเงินทุน คล้ายกับที่เคยใช้กับธนาคารของจีนก่อนหน้านี้

Simon Hu ซีอีโอของบริษัท ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งเมื่อปี 2019 ได้ลาออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย Hu ระบุว่าลาออกเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว

บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่คาดว่าจะมีการเติบโตที่ช้าลงอย่างมาก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีของจีนอย่าง Xi Jinping  ระบุว่า ประเทศจีนตั้งใจที่จะ “ขจัดพฤติกรรมที่ต่อต้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจในปี 2021”

นอกจากนี้ภายในปีนี้จีนมีแผนที่จะออกกฎระเบียบเพิ่มเติมที่บริษัทออนไลน์จะต้องปฏิบัติตาม

Yoon กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าบริษัทเหล่านี้จะเติบโตช้ากว่าเดิมมาก เช่นเดียวกับ Ant Group นอกจากนี้ผู้ค้าบางรายที่ทำงานร่วมกับ Ant อาจเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ลดลง

การที่รัฐพยายามจะควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เป็นเรื่องของระบบการให้คะแนนเครดิตทางสังคม แล้วสิ่งนี้มันคืออะไร?

Eunice Yoon เปิดเผยว่า รัฐบาลมีการเคลื่อนไหวเพื่อปราบปรามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี โดยมีแนวโน้มที่จะบังคับให้พวกเขาร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งน่าจะเป็นก้าวแรกในการสร้างระบบการให้คะแนนเครดิตทางสังคม (social credit scoring system)

นอกจากนี้เธอยังกล่าวว่า รัฐบาลอาจต้องการลงทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาลในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ภายในประเทศ

หุ้น Tencent ปรับตัวลง บริษัทเทคโนโลยีกว่า 12 แห่งถูกหน่วยงานกำกับดูแลปรับ

เมื่อวันศุกร์ ราคาหุ้น Tencent ซึ่งมีการให้บริการธุรกิจคล้ายกับ Ant ได้ลดลงประมาณสี่เปอร์เซ็นต์

ราคาที่ลดลงมีตัวขับเคลื่อนสำคัญมาจาก ความคาดหวังว่าบริษัท มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหาด้านกฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันกับ Ant Group

นอกจากนี้บริษัท Tencent, Alibaba, ByteDace และ Baidu ยังเป็นหนึ่งในสิบสองบริษัท ที่ถูกปรับโดยหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าค่าปรับจะไม่ได้สูงมากนัก แต่สิ่งสำคัญคือข้อความที่อยู่เบื้องหลังบริษัทเหล่านี้มากกว่า ซึ่งรัฐบาลน่าจะต้องการเตือนให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้รู้ว่าใครคือหัวหน้าที่แท้จริง