<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

โปรเจกต์เหรียญยักษ์ใหญ่จากซีพี Velo อาจถูกลิสต์ให้เทรดในไทยอีก 1-2 สัปดาห์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้เมื่อเวลาประมาณ 10:00 น. ที่ผ่านมา ณ ลาน True Digital Park ทาง Velo Labs Technology และ Inter/Stellar ได้ประกาศควบรวมธุรกิจผนึกกำลังเพื่อร่วมมือกันพัฒนาระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่ ในการจับมือกับ Inter/Stellar ครั้งนี้จะทำให้ Ecosystem ของทั้งคู่ เกิด Synergy มากขึ้น

ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของ Interstellar และ Velo เริ่มต้นมามากกว่า 2 ปี จากการร่วมมือกันในการปฏิวัติรูปแบบระบบการชำระเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากจุดเริ่มต้นนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในการขยายภาคทางธุรกิจของทั้งสองฝ่าย เป็นโอกาสที่สำคัญในการเร่งผลักดันการนำไปใช้งานจริง เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และคำนึงถึงประโยชน์อย่างสูงสุดในตลาดผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญในบล็อกเชน Stellar ของ Interstellar บวกกับความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นบริษัทชั้นนำที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้นี่เป็นการผนึกกำลังกันระหว่างสองสุดยอดองค์กร

โดยการอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจสามารถใช้ Velo ในการโอนเงินข้ามประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อจุดมุ่งหมายให้ผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในชีวิตประจำวันมากขึ้นอีกด้วย

นำทีมโดยคุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ทายาทและสมาชิกครอบครัวของเครือ CP Group ประธานของบริษัท Velo และรองประธานที่มากไปด้วยการสั่งสมประสบการณ์ทางด้านการลงทุนและเทคโนโลยีอย่างคุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย

เหรียญ Velo สามารถใช้สำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ โดยใช้เวลาในการดำเนินการน้อยและช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียม ซึ่งผู้ใดที่สนใจใช้งานสามารถติดตามซื้อขายได้ที่แพลตฟอร์มบิทาซซ่า

บทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งในงาน คุณตฤบดีกล่าวถึงเหรียญ Velo Token ว่า

“ตอนนี้ VELO ถูกลิสต์อยู่บน OKex, Kucoin และในเดือนนี้ก็จะลิสต์ที่ตลาดไทย และก็น่าจะที่อินโดนีเซีย”

“ที่ตลาดไทยก็น่าจะเร็ว ๆ นี้” คุณตฤบดีกล่าวเสริม

ปัจจุบันระดับราคาการซื้อขายของเหรียญ VELO อยู่ที่ $1.6 บนกระดานเทรดชื่อดังอย่าง OKex

ซึ่งในอนาคตอาจได้เห็นเหรียญดังกล่าวโลดแล่นอยู่ในตลาดคริปโตเมืองไทย และเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการใช้งานกันได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น นับเป็นการเปิดประตูทางเชื่อมระหว่างโลกสินทรัพย์แบบเดิมไปสู่รูปแบบใหม่ในอนาคต