ราคา Bitcoin ยังคงร่วงลงต่อเนื่อง โดยลดลง 4.33 เปอร์เซ็นในวันนี้ แตะจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 53,221 ดอลลาร์ และเป็นการปรับฐานราคาที่กินระยะเวลามานับตั้งแต่วันเสาร์ ซึ่งโดยรวมแล้ว Bitcoin มีมูลค่าลดลงกว่า 13.87% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 61,700 ดอลลาร์
การร่วงลดลงของราคา Bitcoin ที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้นตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีหุ้น S&P 500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.6% แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3968.94 ในวันจันทร์ ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นแตะ 13459.71 แต่ไม่สามารถทำลายสถิติสูงสุดใหม่ได้เช่นเดียวกับ S&P 500 ส่วนทางด้านดัชนีหุ้นดาวโจนส์นั้นพุ่งขึ้นกว่า 0.5% แตะจุดสูงสุดในรอบปีที่ 32953.46
ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ร่วงลดลง 0.02 เปอร์เซ็นในวันจันทร์ แต่ยังคงอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดในรอบ 13 เดือนที่สูงกว่า 1.64 เปอร์เซ็น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินของประเทศอื่น ๆ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 0.16%
ด้วยอัตราผลตอบแทนที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้น ดูเหมือนว่านักลงทุนจะตัดสินใจพากันย้ายเงินทุนของพวกเขากลับไปสู่สินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อยกว่าทำให้ Bitcoin และสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ มีมูลค่าร่วงลดลงในเวลาต่อมา
การประชุม Fed ที่กำลังมาถึง
ในขณะนี้นักลงทุน Bitcoin กำลังจับตาดูการประชุม Federal Open Market Committee แบบไม่ให้คลาดสายตา ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพุธนี้ เนื่องจากมันอาจทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายที่ไม่เหมาะสมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้
อย่างไรก็ตาม Bitcoin นั้นมักได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการประกาศนโยบายของ Fed เสมอ โดยราคาของสกุลเงินดิจิทัลได้เพิ่มขึ้นกว่า 1,500 เปอร์เซ็นจากช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ระดับ 3,858 ดอลลาร์ และนั่นคือเหตุผลที่การประชุมกำหนดนโยบายของ Fed ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ อาจเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวโน้มของตลาด
นาย Jim Reid นักวิเคราะห์จากธนาคาร Deutsche Bank กล่าวว่า “ประธาน Fed นาย Jerome Powell มีแนวโน้มที่จะเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่และการฟื้นตัวยังคงต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวไกล โดยเฉพาะตลาดแรงงาน”
สัญญาณที่ไม่ชัดเจนเหล่านี้อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากจะหันมาเลือกใช้ Bitcoin เป็นที่หลบภัยกันมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดี Joe Biden จะมีส่วนทำให้เงินดอลลาร์จำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตเช่นกัน