ดูเหมือนว่าตอนนี้รัฐไวโอมิงจะเริ่มอ้าแขนยอมรับการลงทุนด้านบล็อกเชน แล้ว
ตามข้อเสนอใหม่ที่จัดทำขึ้นโดยผู้ว่าการรัฐในเดือนนี้ ไวโอมิงจะจัดสรรเงินจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการ Stake เหรียญ cryptocurrency ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยไวโอมิงซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสาธารณะของรัฐ
“Staking” เป็นการล็อคเหรียญคริปโตเพื่อใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมบล็อกเชนและสร้างโทเค็นใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับนิยมสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัลในการทำให้สินทรัพย์ของพวกเขาสร้างรายได้ได้แบบ Passive income โครงการ Stake เหรียญคริปโตของมหาวิทยาลัยไวโอมิงนั้นได้มีการศึกษาแหล่งรายได้ทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับมหาวิทยาลัยของรัฐอย่างต่อเนื่อง เพราะวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทำให้มหาวิทยาลัยประสบปัญหาด้านงบประมาณ
หลังจากที่รัฐอนุมัติแผนการใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยแล้ว มหาวิทยาลัยดังกล่าวจะมีเงินทุนทั้งหมด 4 ล้านดอลลาร์สำหรับใช้ในโหนดปฏิบัติการ (คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อและรักษาเครือข่าย blockchain) และเก็บสะสม cryptocurrency เพื่อพัฒนา “staking pool” ที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถลงทุนในชิปโทเค็นและเริ่มต้นทำการ Stake โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิคใด ๆ
รายได้ที่ได้จากโครงการนี้จะนำไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยจะมีกำไรสูงถึง 4 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บัญชีการลงทุนเชิงกลยุทธ์และโครงการ (SIPA) ของมหาวิทยาลัย ส่วนกำไรใด ๆ ที่เกิน 4 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป เงินเหล่านั้นจะถูกจัดสรรให้กับ “โปรแกรมและกิจกรรมบล็อกเชนที่มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยชุมชนทั่วทั้งรัฐ”
ในการดำเนินโครงการ staking เหรียญ crypto ข้อเสนอใหม่ยังได้แนะนำให้มีการจัดตั้ง “สภาที่ปรึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล” โดยสมาชิกจะประกอบไปด้วยหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของรัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน 3 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าการรัฐและสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีแห่งมหาวิทยาลัยไวโอมิง
Staking Pool นั้นจะคล้ายกับ Mining Pool ที่หลายคนรู้จัก แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Staking Pool จะใช้อัลกอริทึม (PoS) ที่อาศัยโทเค็นจากการล็อกเหรียญของนักลงทุนเพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของการผลิตบล็อกใหม่และจ่ายเงินรางวัลเป็นการตอบแทน ซึ่งหากใครก็ตามที่ต้องการเข้าร่วม Staking Pool พวกเขาจะต้องล็อกเหรียญไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล และนั้นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถใช้โทเค็นได้จนกว่าจะครบตามระยะเวลาที่กำหนด