ธนาคารกลางจีน “ค่อนข้างกังวล” เกี่ยวกับความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิทัลที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน อ้างอิงตามรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางจีน
นาย Fan Yifei รองผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน (PBoC) แสดงความรู้สึกกังวลต่อรายงานของ CNBC เกี่ยวกับเหรียญ Stablecoin ที่อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบการเงินได้ อ้างอิงตามรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี
Yifei กล่าวเน้นย้ำว่า ระบบการชำระเงินของเหรียญ Stablecoin นั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจน “น่าตกใจ” และ PBoC กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อต่อต้านการผูกขาดและ “การขยายตัวของแหล่งเงินทุนเหล่านี้”
“องค์กรบางแห่งที่เรียกตัวเองว่า Stablecoin อาจนำความเสี่ยงและความท้าทายมาสู่ระบบการเงินระหว่างประเทศ ระบบการชำระเงินและการชำระหนี้”
Yifei ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะนี้รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อยับยั้งการขยายตัวของเหรียญ Stablecoin ภายในประเทศแล้ว โดยรองผู้ว่าการกล่าวเน้นย้ำว่า PBoC จะใช้มาตรการเดียวกันกับ Alibaba’s Ant Group ในตลาดการชำระเงิน
ตามรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลจีนได้ระงับการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ของ Alibaba และยังได้สอบสวนการต่อต้านการผูกขาดใน Alibaba อีกด้วย โดยนาย Mu Changchun หัวหน้าฝ่ายวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของ PBoC กล่าวในภายหลังว่า สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางของจีนได้รับการออกแบบมาเพื่อสำรองข้อมูลของบริษัทการชำระเงินรายใหญ่เช่น AliPay และ WeChat Pay โดยเฉพาะ ตามข้อมูลของ Fan ระบบเงินหยวนดิจิทัลของจีนมีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคนแล้วในปัจจุบัน
นอกเหนือจากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหรียญ Stablecoin แล้ว Fan ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ cryptocurrency ชั้นนำตัวอื่น ๆ เช่น Bitcoin ( BTC ) อีกด้วย โดยระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าว “นั้นเป็นเครื่องมือเก็งกำไร” และก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อ “ความมั่นคงทางการเงินของประเทศ”
ที่มา : ลิงก์