Binance แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ประกาศว่า ผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนเพียงแค่ขั้นพื้นฐาน จะสามารถถอนเงินได้ไม่เกิน 0.06 BTC หรือประมาณ 2,000 ดอลลาร์ จากขีดจำกัดเดิมที่ 80,000 ดอลลาร์
“ขีดจำกัดการถอนเงินรายวันจะถูกปรับเป็น 0.06 BTC สำหรับบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบแค่ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น” Binance กล่าว
โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันทีกับผู้ใช้งานใหม่ ขณะที่ผู้ใช้งานเก่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 4-23 สิงหาคม
“เรากำลังพยายามปรับปรุงระบบ KYC ของเรา เพิ่มส่งเสริมความเป็นผู้นำในพื้นที่นี้ จะมีการปรับขีดจำกัดการถอนเงินรายวันจาก 2 BTC เป็น 0.06 BTC สำหรับผู้ใช้งานที่มีการยืนยันตัวตนในระดับขั้นพื้นฐานเท่านั้น” CZ ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Binance กล่าวยืนยันบน Twitter
CZ เสริมว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับกฎระเบียบใหม่ ๆ เพื่อให้บริการกับผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ระบบ KYC ที่เข้มงวดมักถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมาย
ในปัจจุบันมีการยืนยันตัวตนสามระดับใน Binance คือขั้นพื้นฐาน ระดับกลาง และระดับสูง ซึ่งการยืนยันตัวตนขั้นพื้นฐาน สามารถยืนยันตัวตนได้ง่าย ๆ เพียงแค่กรอกข้อมูล ชื่อ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด และที่อยู่ เพื่อมีส่วนร่วมในการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างรวดเร็ว และสามารถถอนฝากสินทรัพย์ดิจิทัลและเงิน Fiat ในจำนวนเล็กน้อย
ส่วนการยืนยันตัวตนในระดับกลางและระดับสูง ผู้ใช้งานจะต้องยืนยันตัวตนผ่านรูปถ่ายและเอกสารอื่น ๆ ในข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา
การเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามข้อมูลจาก CryptoSlate ได้รายงานว่า Binance ได้หยุดให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีกับสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ยูโร (EUR) และเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ (GBP) เมื่อเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ Binance ยังได้มีการปรับลดเลเวอเรจสูงสุดเป็น 20x สำหรับผู้ใช้รายใหม่ และหยุดให้บริการโทเคนหุ้น (stock tokens) ท่ามกลางแรงกดดันด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฮ่องกง อังกฤษ อิตาลี และหมู่เกาะเคย์แมน