<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แบงก์ชาติเตรียมทดสอบ Retail CBDC ในต้นปีหน้า ชาวไทยเตรียมเฮ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วางแผนที่จะทดสอบสกุลเงินดิจิทัลกับประชาชนทั่วไปในไตรมาสที่สองของปี 2565 เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงิน โดยประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

โดย นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้ช่วยผู้ว่าการ) ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยการศึกษาถึงผลกระทบ Retail CBDC ต่อภาคการเงินไทย และผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชน ต่อแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ผ่านรายงาน “The Way Forward for Retail Central Bank Digital Currency in Thailand” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางการพัฒนา Retail CBDC และทดสอบใช้งานจริง (Pilot Test) โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

การศึกษาผลกระทบของ Retail CBDC ต่อภาคการเงินไทย

ผลการศึกษาชี้ว่า การออกแบบและการพัฒนา Retail CBDC ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องไม่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อการส่งผ่านนโยบายการเงิน การทำงานของระบบสถาบันการเงิน และเสถียรภาพโดยรวมของภาคการเงินไทย โดยจะมีลักษณะสำคัญ คือ

  1. รูปแบบคล้ายเงินสด และไม่จ่ายดอกเบี้ย
  2. อาศัยตัวกลาง เช่น สถาบันการเงิน ในการแลกเปลี่ยน Retail CBDC กับประชาชน และ
  3. มีเงื่อนไขหรือระยะเวลาสำหรับการแลกเปลี่ยน Retail CBDC จำนวนมาก ๆ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกับเงินฝากหรือเกิดการโยกย้ายเงินฝากปริมาณมากอย่างรวดเร็วจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะกระทบต่อการทำหน้าที่ตัวกลางในการรับเงินฝากและให้กู้ยืม รวมถึงการบริหารสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงิน

ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินว่าความต้องการใช้ Retail CBDC ของประชาชนจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และ Retail CBDC จะเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในการชำระเงินให้กับประชาชน โดยอาจถูกใช้ทดแทนเงินสดและ e-money ได้บางส่วนในระยะต่อไป 

ผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชน

จากผลสำรวจ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ของ ธปท. และมองว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย เปิดกว้างต่อการเข้าถึงและการแข่งขันในอนาคต นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับแนวทางการออกแบบ Retail CBDC ข้างต้นเพื่อจำกัดผลกระทบเชิงลบต่อภาคการเงินไทย 

ทั้งนี้ ผลสำรวจบางส่วนเสนอเพิ่มเติมให้ธนาคารแห่งประทเศไทยมุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์และการใช้งานของ Retail CBDC แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะความแตกต่างจากการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน  

แผนการทดสอบ Retail CBDC เพื่อใช้งานจริงในวงจำกัด (Pilot test)

จากผลการศึกษาและความเห็นที่ได้รับข้างต้น ธปท. จึงกำหนดแนวทางการพัฒนาและทดสอบการใช้งาน Retail CBDC ดังนี้

  1. การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation Track) เพื่อศึกษาการใช้งาน Retail CBDC ในการรับแลก หรือใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการในวงจำกัด ซึ่ง ธปท. คาดว่าจะเริ่มทดสอบในไตรมาส 2 ปี 2565 
  2. การทดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation Track) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาต่อยอดการใช้งาน Retail CBDC ในกรณีต่าง ๆ โดย ธปท. จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหรือนักพัฒนาเข้าร่วมทดสอบด้วย ซึ่งขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบและหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมทดสอบ

ธนาคารแห่งประเทศไทยจะประเมินผลลัพธ์และความเสี่ยงด้านต่าง ๆ จากการทดสอบการใช้งานข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่า Retail CBDC จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ภาคธุรกิจ และประเทศในภาพรวม และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินในอนาคต

ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยจ้าง Giesecke & Devrient บริษัทเทคโนโลยีประเทศเยอรมันที่ให้บริการพิมพ์ธนบัตรและหลักทรัพย์ รวมถึงสมาร์ทการ์ดในเยอรมัน และสำหรับโครงการของ CBDC ในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน

รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดสรรเงินจำนวน 10 ล้านบาท (320,000 ดอลาร์) ซึ่งรวมภาษี ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เรียบร้อยแล้วสำหรับโครงการดังกล่าว

CBDC ย่อมาจาก Central Bank Digital Currency คือ เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ พูดง่าย ๆ ในกรณีของไทย ก็เหมือนเงินบาทหรือธนบัตรที่ออกโดยแบงก์ชาติ เพียงแต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล

การดำเนินการทดสอบโครงการ CBDC ของประเทศไทยในครั้งนี้อยู่เป้าหมายที่จะเปิดใช้ประชาชนใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งนี่ถือเป็นการทดสอบครั้งแรกนับตั้งแต่การประกาศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา