Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter และผู้สนับสนุน Bitcoin เชื่อว่า เงินเฟ้อจะเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว และจะนำไปสู่วิกฤตภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ที่ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในทั่วโลกอีกด้วย
Hyperinflation จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง
ซีอีโอของ Square และ Twitter ได้แชร์มุมมองของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้บน Twitter โดยกล่าวว่า “วิกฤตภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงกำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง… และมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว”
ความคิดเห็นของ Dorsey มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price) นั้นพุ่งขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และกำลังใกล้แตะจุดสูงสุดในรอบ 30 ปี
วิกฤตเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
Tayo Oviosu นักธุรกิจชาวไนจีเรียและผู้คลั่งไคล้สกุลเงินดิจิทัลกล่าวแสดงความคิดเห็นบนทวีตของ Dorsey ว่า ตอนนี้ประเทศของเขากำลังเผชิญอยู่กับอัตราเงินเฟ้อ 16% ต่อปีอยู่แล้ว ซึ่ง Dorsey ได้ตอบกลับไปว่า “มันจะเกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกในไม่ช้า”
ในขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้กล่าวให้ความเห็นเกี่ยวกับความกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อก่อนหน้านี้ว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถดำเนินต่อไปได้จนถึงปีหน้า และ Fed ก็อาจปรับลดนโยบายอัดฉีดเงินมูลค่ามหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทันทีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
Bitcoin จะเป็นทางออกให้กับเรื่องนี้
ในขณะที่นักลงทุนดั้งเดิมหลายคนกำลังแสดงความกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐอเมริกานั้นอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงในระยะยาว
ในทางกลับกันผู้ที่ชื่นชอบคริปโตดูเหมือนว่าจะยังคงชิล ๆ เนื่องจากพวกเขามองว่า Bitcoin นั้นเป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อที่ดีที่สุด และถึงแม้ว่ามันจะถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้มันเป็น Store of value มากกว่าเครื่องมือการลงทุนอื่น ๆ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน JPMorgan ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “นักลงทุนสถาบันดูเหมือนจะโยกย้ายเงินทุนของพวกเขากลับมายัง Bitcoin” เพราะพวกเขามองว่า มันเป็นตัวป้องกันความเสี่ยงในด้านเงินเฟ้อที่ดีกว่าทองคำ