เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ยังคงเดินหน้าลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่อุตสาหกรรมแห่งนี้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างกระโดดนับตั้งแต่ปี 2021
โดยล่าสุดนั้น บริษัทได้ประกาศร่วมลงทุนรอบ Series B ใน “Sygnum” ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจรแห่งแรกของโลกที่มุ่งขยายการบริการสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรองรับการเติบโตของ Web 3.0 ให้แก่ลูกค้าสถาบัน
“Sygnum” เป็นธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลกที่ได้รับใบอนุญาตการธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์และใบอนุญาตบริการตลาดทุนในสิงคโปร์ โดยการระดมทุนในรอบ Series B บริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่มนักลงทุนชั้นนำระดับโลก ที่นำโดย Sun Hung Kai & Co. Limited (SEHK: 86) พร้อมด้วย SBI Holdings, Meta Investments, Animoca Brands และ WeMade
การระดมทุนครั้งนี้ส่งผลให้ Sygnum มีมูลค่าบริษัทหลังการลงทุน (Post-Money Valuation) เพิ่มขึ้นสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่น รายได้ของกลุ่มที่เติบโตกว่า 10 เท่า จำนวนลูกค้าสูงถึงเกือบ 1,000 ราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการระดมทุนครั้งสำคัญที่มุ่งเน้นการพัฒนาบริการสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรองรับการเติบโตของ Web 3.0 (อินเทอร์เน็ตที่เน้นการทำงานแบบไม่รวมศูนย์) ให้แก่ลูกค้าสถาบัน พร้อมขยายขอบเขตการให้บริการสู่ตลาดใหม่ ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลก โดย SCB 10X ได้มีการลงทุนใน Sygnum คร้้งแรกเมื่อปี 2020
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X มุ่งเน้นลงทุนด้าน Disruptive Technology ในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพทั่วโลก เราให้ความสนใจอยากมากกับเทคโนโลยีการเงินแห่งโลกอนาคต เช่น Blockchain, Digital Asset และ DeFi เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าเทรนด์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะ DeFi ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ซึ่งการระดมทุนรอบนี้ของ Sygnum จะมุ่งขยายการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Web 3.0 เช่น การให้บริการการลงทุนและ Staking ในเหรียญ DeFi กับนักลงทุนสถาบัน เราจึงร่วมสนับสนุนและเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนต่อเนื่องในการระดมทุนรอบ Series B ของ “Sygnum” ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลก ผู้นำด้านการให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร พร้อมขยายขอบเขตการให้บริการไปทั่วโลก”
ด้านนายมาเทียส อิมบาค์ก (Mathias Imbach) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Group CEO ของ Sygnum กล่าวว่า “การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เมื่อนักลงทุนมีความต้องการในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น การให้บริการด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานตามกฎหมายอย่าง Sygnum จึงมีความจำเป็น เพื่อมาช่วยดูแลการลงทุนให้เกิดความปลอดภัยในทรัพย์สินของนักลงทุนโดยการระดมทุนในครั้งนี้ของ Sygnum นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และมีเป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและเชื่อถือได้”