ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างแพร่หลายในหมู่นักลงทุนคริปโตชาวไทย เกี่ยวกับการ Split เหรียญ BTZ Token ของ Bitazza ที่ทางบริษัทได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปรับเพิ่มอุปทานเหรียญ BTZ ทั้งหมดเป็น 3,000 ล้านโทเค็น จากเดิม 300 ล้านโทเค็น
การอัปเดตข่าวดังกล่าวนี้ทำให้นักลงทุนของ Bitazza รู้สึกหงุดหงิดไปตาม ๆ กัน เพราะปกติแล้วเมื่ออุปทานเหรียญมีการปรับเพิ่มให้มีจำนวนเยอะขึ้น สิ่งนี้มักจะส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญโดยตรง
ด้วยเหตุนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้กับนักลงทุน ในการถามคำถามสุดพิเศษกับทาง Bitazza เกี่ยวกับเหตุผลในการ Split เหรียญ BTZ Token ในครั้งนี้ รวมถึงทิศทางของโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต
บทสัมภาษณ์พิเศษกับผู้ก่อตั้ง Bitazza
โดยทาง Siam Blockchain ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ไปยังคุณกวิน พงษ์พันธ์เดชา หรือคุณอาร์ท CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Bitazza ถึงเหตุผลในการ Split เหรียญ BTZ Token ที่กำลังเป็นกระแสพูดถึงมากมายในขณะนี้ ด้วย 4 คำถามสำคัญที่จะมาช่วยคลายข้อสงสัยให้กับนักลงทุนเหรียญดังกล่าว
Siamblockchain : อยากสอบถามคุณอาร์ทครับว่าทำไม Bitazza ถึงต้องทำการเพิ่มอุปทานเหรียญ BTZ ตามที่เพจได้มีการประกาศไปล่าสุดครับ ? มันมีเหตุผลที่มาที่ไปอย่างไรบ้างครับ ?
คุณอาร์ท : ก็คือต้องบอกก่อนนะครับว่า สำหรับ BTZ token เราได้มีการออกแบบมามานานตั้งแต่ปี 2019 และได้มีการแจกเป็นเหรียญ Airdrop ให้กับทุกคนที่มาเข้าใช้งานแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งในตอนแรกเราคิดว่ากิจการของเรานั้นอาจมีเฉพาะแค่ในไทยเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงจุด ๆ หนึ่ง เราเริ่มได้มีการหารือกันภายในบริษัทเกี่ยวกับการขยายกิจการของเราไปในต่างประเทศ
ซึ่งการขยายกิจการไปยังเว็บเทรดต่าง ๆ ในต่างประเทศนั้น เราจะต้องใช้เหรียญ BTZ เพื่อมอบให้กับแต่ละประเทศในการทำการตลาด ดังนั้นการที่เราจะขยายกิจการไปยังต่างประเทศแต่จำนวนโทเค็นกลับมีจำนวนจำกัด มันก็จะทำให้เราไม่สามารถดำเนินการในส่วนตรงนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่า Exchange ในไทยมีเหรียญ BTZ อยู่จำนวนทั้งหมด 10 ล้านโทเค็น แต่พอจะขยายกิจการไปยัง Exchange ในต่างประเทศ เรากลับให้เหรียญ BTZ Token กับพาร์ทเนอร์ของเราได้เพียงแค่ 5 แสนโทเค็น พวกเขาก็อาจจะพูดว่ามีแค่ 5 แสนเหรียญเองหรอ ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่มีหลักจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง เราเลยมองว่าอุปทานเหรียญมีน้อยเกินไป จึงได้มีการพิจารณาเพิ่มอุปทานเหรียญในส่วนตรงนี้เข้ามา
Siamblockchain : การเพิ่มอุปทานเหรียญในส่วนนี้จะเป็นการส่งผลกระทบผลต่อราคาของเหรียญ BTZ Token ด้วยหรือเปล่าครับ ? หรือทำให้โครงสร้างของเหรียญเปลี่ยนไปจากเดิมไหมครับ ?
คุณอาร์ท : ในส่วนของการเพิ่มอุปทานเหรียญหรือ Tokenomic นี้จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลยครับ เพราะว่าเราไม่ได้มีการเสกเหรียญขึ้นมาเปล่า ๆ จากอากาศหรือคนที่ถือเหรียญอยู่ก็เหมือนถูกขโมยเหรียญไป ตรงนี้ไม่ใช่ครับ ต้องเข้าใจก่อนครับว่ามันเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเข้าใจผิดอยู่
เพราะสิ่งที่เรากำลังจะทำนั้นก็คือ การ Split token ยกตัวอย่างเช่น หากคุณถือเหรียญ BTZ อยู่เป็นจำนวน 100 Token และเมื่อ Supply ของเหรียญเพิ่มขึ้นจาก 300 ล้าน Token ไปเป็น 3 พันล้าน Token คุณก็ได้จะรับ Token เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 Token ซึ่งมันแทบจะไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลยครับ แต่จะมีผลสำคัญต่อการขยายกิจการ และการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับตลาดในต่างประเทศ
Siamblockchain : ทาง Bitazza มีแผนที่จะดำเนินการลิสต์เหรียญและร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับตลาดต่างประเทศประมาณช่วงไหนบ้างครับ ? ภายในปีนี้หรือเปล่า ?
คุณอาร์ท : สำหรับเรื่องนี้เราขอเก็บเป็นเซอร์ไพรสไว้ก่อนนะครับ แต่ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางเราอย่างใกล้ชิด เพราะเดี้ยวเราจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่ากำหนดการจริง ๆ นั้นน่าจะมีการอัพเดทภายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ครับ
Siamblockchain : แผนการลิสต์เหรียญ BTZ Token ในต่างประเทศ สำหรับ Exchange อื่น ๆ พอจะมีบ้างไหมครับ ในอนาคต คุณอาร์ท : มีแน่นอนครับ ตอนนี้ทางทีมงานกำลังพิจารณาอยู่ครับว่าจะไปลิสต์ที่ Exchange ไหนดี ซึ่งก็มี Exchange บางส่วนที่คอนเฟิร์มกับทางเราอยู่แล้วครับ แต่ปัจจุบันขออุบไว้ก่อน รอให้ทุกอย่างลงตัวจริง ๆ เราถึงจะมาอัพเดทนะครับ\
credit รูปภาพ : ลิงก์