UBX หนึ่งใน FinTech ของ Union Bank of the Philippines (UBP) ได้เติบโตขึ้นกว่า 44 เท่าจากปีที่แล้วหลังจากที่ได้นำเทคโนโลยี blockchhain มาใช้กับเทคโนโลยีการเงินภายในประเทศซึ่งทำให้ธุรกิจธนาคารเติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าในปีนี้ โดยหลายคนเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณของการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการธนาคารที่มากยิ่งขึ้น
UBX เปิดตัว i2i เป็นแพลตฟอร์มการธนาคารในฐานะบริการในปี 2019 เพื่อให้บริการชุมชนในชนบท โดยทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยกว่ากว่า 100 ล้านคนหรือ 70% ของพลเมืองเข้าถึงบริการธนาคารได้ แม้ว่า 1 ใน 3 ของประชากรอาศัยอยู่ด้วยเงินน้อยกว่า 2 ดอลลาร์ต่อวันก็ตาม
Anne Yosuico กรรมการผู้จัดการ UBX ฝ่ายบริการด้านการธนาคารกล่าวว่า
“ปี 2021 เป็นปีแห่งการเติบโตอย่างมากสำหรับ i2i ด้วยความต้องการบริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในประเทศ เป้าหมายของเราคือการเติบโต 300% ในปีนี้”
แพลตฟอร์ม i2i เปิดตัวร่วมกับธนาคารกว่า 130 แห่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางของประเทศ ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้ค้าทั่วไป เช่น เจ้าของร้านขนาดเล็ก ร้านขายสินค้าทั่วไป หรือธุรกิจที่จดทะเบียนใด ๆ สามารถให้บริการทางการเงิน เช่น การถอนเงิน การโอนเงิน การเรียกเก็บเงิน และการฝากเงิน
Blockchain ขับเคลื่อนการเติบโตของ SME ในฟิลิปปินส์
ในเดือนมกราคม World Economic Forum (WEF) กล่าวว่าบล็อคชกเชนจะขับเคลื่อนการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยธุรกิจ SMEs คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของธุรกิจทั้งหมด โดยจ้าง 50% ของแรงงานภายในประเทศซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% ของ GDP ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
การสำรวจระดับองค์กรของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่า SMEs ถูกขัดขวางจากการขาดการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของพวกเขา สิ่งนี้ทำให้ Blockchain สามารถเชื่อมช่องว่างทางการเงินและช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้างและเติบโตได้โดยใช้เทคโนโลยีและการยอมรับ
Blockchain ส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก
บล็อกเชนสามารถเชื่อมต่อธุรกิจขนาดเล็กกับตลาดโลก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและทำให้การชำระเงินง่ายขึ้นด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถรับ crypto เป็นวิธีการชำระเงินจากลูกค้าได้
ที่สำคัญกว่านั้น เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้บล็อกเชนเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนแบบ ITO ซึ่งเทียบเท่ากับทุนในบริษัทแบบดั้งเดิมและสามารถแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายได้
Yosuico อธิบายว่าการใช้บล็อกเชนและเทคโนโลยีการเงินแบบเปิดสามารถเปิดโลกใหม่ให้กับนักลงทุนและผู้ค้าในประเทศได้ ซึ่งรวมถึงการประมวลผลการขอสินเชื่อแบบดิจิทัล ไปจนถึงการขายประกันและการตรวจสอบความรู้ของลูกค้า (KYC)
อย่างไรก็ตาม Yosuico กล่าวปิดท้ายว่า “ในฐานะพันธมิตรที่แข็งแกร่งของรัฐบาลและอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นที่จะสร้างและพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อให้บริการด้านการธนาคารใกล้ชิดกับชาวฟิลิปปินส์มากขึ้น”