หน่วยสืบราชการลับแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USSS โดยมี David Smith เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการและเป็นผู้นำ USSS ทั่วโลก ด้วยสำนักงาน 161 แห่งและพนักงานกว่า 3,000 คน โดยเขากล่าวว่าได้ทำการยึดเหรียญคริปโตไปกว่า 1.02 ร้อยล้านดอลลาร์ในระหว่างการสอบสวนคดีอาญาและการฉ้อโกงตั้งแต่ปี 2015 ทั้งนี้ก็เพื่อติดตามคนที่ทำธุรกรรมโดยใช้คริปโตอย่างผิดกฎหมายและทำการปราบปรามในที่สุด
เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯและนักวิเคราะห์ได้ทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหว Bitcoin และ เหรียญคริปโตอื่น เขากล่าวว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตสูงถึง 254 คดี
“เมื่อคุณติดตามกระเป๋าเงินที่เก็บเหรียญคริปโต ก็ไม่ต่างจากที่อยู่อีเมลที่มีตัวระบุที่เกี่ยวข้องกัน… และเมื่อบุคคลและบุคคลอื่นทำธุรกรรม เทคโนโลยี Blockchain จะสามารถทำให้เราติดตามไม่ว่าจะที่อยู่อีเมลนั้นหรือที่อยู่กระเป๋าเงินก็ได้หากคุณต้องการ”
การฉ้อโกงด้วยคริปโต
จากการฉ้อโกงที่มีผู้เสียหายกว่า 900 คน ทีมสืบสวน Smith ได้ร่วมมือกับตำรวจของโรมาเนียเพื่อแกะรอยการฉ้อโกง พบว่าส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่ได้ถูกวางขายบนเว็บไซต์ประมูลและขายผ่านการโฆษณาปลอมนั้นไม่มีสินค้าอยู่จริง
Smith ได้อธิบายถึงวิธีการทีพวกแก๊งค์ฉ้อโกงใช้ในการซื้อสินค้าปลอมผ่านเว็บไซต์นั้น โดยเมื่อทำการสั่งซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีการส่งมอบใบแจ้งหนี้ปลอมในนามของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือกับลูกค้าทันทีที่มีคำสั่งซื้อ โดยหลังจากที่เหยื่อได้ทำการโอนเงินให้แล้วนั้น เงินที่ได้รับจะถูกแปลงเป็นคริปโตในทันที
ซึ่งการกระทำเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า การฉ้อโกง แบบสมัยก่อนนั้น กำลังเปลี่ยนแปลงไปใช้เงินคริปโตเพื่อซ่อนเงินเอาไว้แทน
“สิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีคือการเคลื่อนย้ายเงินได้เร็วกว่ารูปแบบดั้งเดิม… สิ่งที่อาชญากรต้องการพยายามทำให้กิจกรรมของพวกเขาคลุมเครือที่ นี่คือสิ่งที่เราต้องการทำคือ การติดตามอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” Smith กล่าว
โดยวิธีการของอาชญากรที่ชอบใช้ในการฉ้อโกง คือการโอน Bitcoin ที่ถูกขโมยหรือเหรียญคริปโต อื่น ๆ ไปยัง Stablecoin เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด
USSS Probe เข้าตรวจสอบ Banana Fund
เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่าน ทางทีมของ USSS ได้ดำเนินการตามหมายจับสำหรับโดยยึดเหรียญคริปโตจำนวน 482 BTC และเหรียญUSDT 1.7 ล้านเหรียญ ในโครงการ Ponzi จากรายละเอียดพบว่าโครงการ Banana Fund เป็นแพลตฟอร์มการระดมทุนโดยใช้เหรียญคริปโต เพื่อบริษัท Starup ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุนเพื่อเข้าถือหุ้นในกองทุน
ซึ่งต่อมาเจ้าของกองทุนอ้างว่าโครงการไม่สามารถที่จะไปต่อได้แล้วและเขาจะทำการคืน Bitcoin จำนวน 557 BTC และ เหรียญ USDT อีกกว่า 1.73 แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้ทำการแจ้งไปยัง USSS โดยบอกว่า เจ้าของกองทุนไม่คืนเงินลงทุนอีกทั้งยังถอน Bitcoin กว่า 100 เหรียญเพื่อไปใช้ส่วนตัว
หลังจากการสอบสวน หน่วยงาน USSS สามารถค้นหา Bitcoin จำนวน 482 เหรียญ และ เหรียญ USDT จำนวน 1,721,868 ในบัญชีที่เชื่อมโยงกับเจ้าของ Banana Fund และได้ดำเนินการตามหมายจับ โดยยึดเหรียญคริปโตที่สามารถกู้คืนมาได้
ในเดือนตุลาคม 2021 ที่ผ่าน สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ได้ทำการจับกุมชาวอิสราเอล 26 คนในข้อหาต้องสงสัยมีส่วนร่วมในโครงการกองทุนคริปโต (Banana Fund)