ในวันที่ 7 สิงหาคมบริษัท Asphere Innovation ได้ยื่นรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ว่า AS ได้ทำสัญญากู้เงินในวงเงินรวมไม่เกิน 320 ล้านบาทกับธนาคาร UOB และนายปราโมทย์ สุดจิตพร เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้น Bitkub สามัญในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“BO”) จำนวน 4,149,000 หุ้นล้าน หรือ 9.22% โดยบริษัทยังคงมีหน้าที่ในการชำระค่าตอบแทนส่วนที่เหลือจำนวน 150,000,000 บาท ให้แก่ผู้ขายภายในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566
บริษัทเรียนให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566 บริษัทได้ชำระค่าตอบแทนส่วนที่เหลือจำนวน 150,000,000 บาท ให้แก่ ผู้ขายโดยใช้แหล่งเงินทุน ซึ่งมาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัทจากการดำเนินงานจำนวน 20,000,000 บาท และกู้ยืมเงินจากบริษัท SABUY เป็นจำนวน 130 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 9.46 % ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของ AS และบริษัทได้รับโอนหุ้นสามัญใน BO จำนวน 4,149,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 9.22 ของทุนจดทะเบียนจากผู้ขายเสร็จสิ้นแล้ว
การกู้ยืมดังกล่าวนี้ AS จึงมีหน้าที่ในการชำระคืนเงินต้นจำนวน 130 ล้านบาทดังกล่าวพร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5 % ต่อปี
โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ของบริษัทก่อนการกู้ยืมเงินจาก SABUY ซึ่งเดิมอยู่ที่ 0.60 แต่หากรวมกับการกู้ยืมเงินจากธนาคาร UOB และนายปราโมทย์ สุดจิตพร อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของ AS จะเปลี่ยนเป็น 0.72 ภายหลังการกู้ยืมจาก SABUY