<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

[บทสัมภาษณ์พิเศษ] “ทำไมต้องเปลี่ยน Bitkub Chain เป็น POS” กับคุณภาสกร ปานนอก CEO Bitkub Chain 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ทาง Siamblockchain ได้มีการรายงานไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการประกาศว่า Bitkub Chain กำลังจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบฉันทามติ POSA ไปเป็น POS อย่างเต็มตัว

และด้วยการเปลี่ยนระบบฉันทามติของ Bitkub Chain ไปเป็น POS ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2023 ที่บล็อกหมายเลข 14220246  Siamblockchain จึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้กับหลาย ๆ คนในการคำถามสุดพิเศษกับ คุณภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เกี่ยวกับ ‘การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PoS ของ Bitkub Chain ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน’ รวมถึงประเด็นอื่น ๆ  

Siamblockchain: ทำไมต้องเปลี่ยน Bitkubchain เป็น Proof-of-Stake (POS) มีผลประโยชน์อะไรต่อผู้ใช้งานคนไทย

คุณภาสกรกล่าว : อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ การเปลี่ยน PoS ต้องเข้าใจก่อนว่า มันย่อมาจาก Proof-of-Stake ก็หมายถึงว่า Node Validator จะทำการ Validate ข้อมูลได้จะต้องมีการ Stake เหรียญลงบน Node Validator ในการที่จะมีสิทธิตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อกเชน

ซึ่งกลไกนี้มันจะเป็นการดึงดูดให้คนที่อยากจะมีส่วนในการ Validate ข้อมูลจะต้องมีเหรียญ KUB เข้ามา Stake ในระบบเพื่อให้ได้สิทธิ Validate และได้ผลตอบแทนเป็นรางวัลกลับไปซึ่งเหรียญ KUB เพิ่มมากขึ้นในกลไกนี้

ประโยชน์ของ User ที่จะได้รับก็คือ คนที่ต้องการเป็น KUB Holder สามารถที่จะมา take benefit บางอย่างบน Bitkub chain ได้มากขึ้น จากการที่บางทีเอา KUB มาใช้ในเกม และอาจจะได้รางวัลกลับไป ซึ่งหลังจากเปลี่ยนจะสามารถเอา KUB มา Stake”

ซึ่งรีวอร์ดที่เกิดขึ้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนการใช้งาน ถ้ามีคนใช้ Kub chain เยอะ มีธุรกรรมในปริมาณมาก ๆ จำนวนรีวอร์ดก็จะมีมากขึ้น 

มันจะส่งผลต่อตัว Supply ของเหรียญที่มันจะหมุนเวียนมากขึ้น แต่ตัว Supply ของ Kub chain ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่ง Total ของเหรียญ KUB ก็มีแค่ 110 ล้านเหรียญ​ KUB แต่สิ่งสำคัญคือมันจะช่วยให้มีสภาพคล่องมากขึ้น”

ซึ่งคุณภาสกร ก็ยังกล่าวต่ออีกว่า “การเปลี่ยนเป็นระบบเป็น PoS จะช่วยเรื่องของสภาพคล่อง ให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะทำให้ทุกคนได้ประโยชน์กลับไปมากที่สุด นี่ถือว่าเป็นประเด็นหลัก”

Siamblockchain: ประเภทของ Validator มีอะไรบ้าง

คุณภาสกรกล่าว : จะมีแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. Validator (เปิดเครื่องเป็น Node) และ 2. Delegator (คนที่อยากมีส่วนร่วม โดยการเอา kub stake) 

คนที่เป็น Validator ก็จะแบ่งออกไปเป็น 3 ประเภท มี Pool Node, และ Solo Node ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าอยากเป็นแบบไหน เพราะจะมีความแตกต่างกัน”

ในจุดนี้นั้นอาจจะดูในเรื่องของความเหมาะสม “ถ้าเป็น Node คนเดียวก็เป็น Solo Node มาตั้งเครื่อง นำ KUB มา stake ก็จะได้รีวอร์ดกลับไปตามสัดส่วนที่ถือ KUB อยู่”

ทั้งนี้ Pool Node นั้นสามารถตั้งค่าราคาค่าธรรมเนียมในการ Stake ได้ด้วย

อย่างไรก็ดีคุณภาสกรได้บอกว่า สำหรับผู้ที่อยากมีส่วนร่วม หรืออยากเป็น Node ด้วยแต่ไม่มีความรู้ก็สามารถที่จะนำ KUB มา Stake ได้ โดยจะอยู่กลุ่มของ Official Node ซึ่งจะเรียกคนที่นำเหรียญ​ KUB มา Stake ว่า Delegator หรือคนที่มีส่วนร่วมในการ Validate ข้อมูลแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ”

คุณภาสกรกล่าวเสริมว่า “ที่สำคัญคือทุกคนสามารถมาเข้าร่วมเมื่อไรก็ได้ และคนที่เป็น Delegator นั้น stake ขั้นต่ำอยู่ที่ 1 KUB”

Siamblockchain: สุดท้ายนี้คุณภาสกร อยากฝากอะไรเพิ่มเติมไหมคะ?

คุณภาสกรกล่าว : ตัว PoS ถือเป็นตัวหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านที่เราอยากให้สเกลของ Kub chian มันโตขึ้นมาก ๆ ปริมาณธุรกรรมมากขึ้น ซึ่งก็จะมาพร้อม ๆ กับโปรเจกต์ Metaverse  และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง Bitkub ก็ได้เพิ่มให้ฟาร์ม กับ จองที่ดินแล้ว 

ก่อนหน้านี้เองก็มีการได้เปิด Beta test ให้ได้ลองเล่น  ซึ่งเดี๋ยวจะมีการเปิด Public test อีกหนึ่งรอบให้ทุกคนได้เข้าไปเล่นกันก่อนที่เกมจะเปิดจริงในช่วงสิงหาคมที่จะมาถึง ใกล้ ๆ กับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบฉันทามติ PoS

ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับบทความสัมภาษณ์สุดพิเศษจากคุณภาสกร นอกจากนี้ยังมีแว่ว ๆ มาด้วยว่า Bitkub Metaverse ก็เตรียมที่จะใช้บริการในโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย 

ทั้งนี้สรุปได้ว่าในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 17 กรกฏาคม) Bitkub จะเสร็จสิ้นการเปลี่ยนผ่านระบบฉันทามติ POS  อย่างสมบูรณ์  แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเมื่อเปลี่ยนระบบเป็นฉันทามติ POS เสร็จสิ้นแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคา KUB ดีดตัวพุ่งขึ้นกว่า 5% ตอบสนองต่อข่าวดังกล่าว ซึ่งคาดว่าการเปลี่ยนผ่านระบบฉันทามติในครั้งนี้อาจส่งผลดีต่อราคา Kubcoin อย่างมีนัยสำคัญ