<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย ! เศรษฐา ย้ำ “ยังใช้บล็อกเชนในนโยบายเงินดิจิทัล” แต่ขออุบแหล่งที่มา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตามรายงานจากข่าวสด ออนไลน์ ระบุว่า “เศรษฐา ย้ำใช้  บล็อกเชน เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต อุบที่มาแหล่งเงิน หวั่นทำสับสน แย้มได้โฆษกรัฐบาลแล้ว ชี้เทคโนโลยีสื่อสารก้าวหน้าไม่จำเป็นต้องมี ครม.เศรษฐกิจ เมินก้าวไกล ตั้งป้อมซักนโยบายหาเสียงไม่อยู่ในนโยบายรัฐบาล มั่นใจพร้อมให้ตรวจสอบ” โดยมีรายละเอียดในรายงานข่าวดังนี้

เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของแหล่งเงินที่จะใช้สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าที่ผ่านมาได้พูดคุยกับหลายภาคส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนงบประมาณว่าเงินจะมาจากไหน เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก็ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ข้อคิดมาหลายเรื่อง

โดยให้คำแนะนำว่าถ้าเราจะออกดิจิทัลวอลเล็ต ในระยะกลางและระยะยาวของประเทศระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นลักษณะไหน เช่นตัวเลขหนี้สาธารณะจะขึ้นจะลงอย่างไร ท่านเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องพูดคุยให้เกิดความขัดเจน ไม่อยากให้พูดกันไปหลายอย่าง

วันนี้ขอทำการบ้านให้ดีก่อน อย่าลืมว่าวันนี้ตนยังไม่สามารถเข้าบริหารงานได้ ต้องรอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาถึงจะสั่งการได้ วันนี้ขอให้เป็นเรื่องการพูดคุยและเก็บข้อมูลก่อน ขอร้องว่าอย่าพูดให้เกิดความสับสน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง วันนี้ข้อมูลมาจากหลายภาคส่วน

เมื่อถามว่าจะเป็นการออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ขอเวลานิดหนึ่ง ไม่อยากจะตอบแล้วสื่อนำไปเขียนกัน จนเกิดความเข้าใจผิด มีหลายส่วนที่ทำได้ เมื่อถามย้ำว่าการจ่ายเงินจะเป็นลักษณะบล็อกเชนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าเป็นบล็อกเชนแน่นอน

เมื่อถามย้ำว่าแม้วิธีการหาเงินยังไม่สรุป แต่ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าได้ในไตรมาสแรกปี 2567 เหมือนที่เคยระบุไว้ใช้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ใช่ แน่นอน

เมื่อถามว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันที่ 13 ก.ย. นอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และลดราคาพลังงานแล้วมีเรื่องอะไรเร่งด่วนอีกบ้าง นายเศรษฐา ตอบว่า ขอให้อดใจนิดหนึ่งเพราะมีหลายเรื่อง มีเรื่องที่เตรียมไว้ยาวมาก ทั้งนี้ เราประกาศไว้แล้วว่าการประชุมครม.นัดแรก จะทำอะไรบ้าง และต้องดูว่าวันที่จะเริ่มทำได้จริงเมื่อไหร่ ถ้าพูดไปก่อนเดี๋ยวจะเกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม วันนี้จะพูดคุยภายในเกี่ยวกับการจัดเตรียมวาระ

เมื่อถามว่าการประชุมวันที่ 13 ก.ย. จะแบ่งงานให้รองนายกฯเลยหรือไม่ นายเศษฐา กล่าวว่า น่าจะและกำลังทำอยู่ วันนี้ก็จะเป็นเรื่องหนึ่งในการพิจารณากับคณะทำงาน เมื่อถามว่านายกฯระบุจะนั่งเป็นประธาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯจะดูแลงานด้านความมั่นคงด้วยตัวเองเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดคุยกันในที่ประชุมครม.ครั้งต่อไป และยืนยันจะไปกำกับดูแล ก.ตร.ด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่าจะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจโดยเฉพาะหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าการประชุมครม.นอกสถานที่ จะมีอย่างแน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่ขอกำหนดวันเวลาอีกครั้ง ส่วนการประชุมครม.เศรษฐกิจ ส่วนตัวคิดว่าการทำงานสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องนั่งล้อมวงกัน เสียเวลาเตรียมเอกสาร เราใช้การทำงานแบบจับกลุ่มพูดคุยและรวมตัวกันทำงานดีกว่า คนจะได้ไม่ต้องมาเตรียมเอกสารกันเยอะไปหมด อีกทั้งมีวิธีสื่อสารหลายวิธี จึงคิดว่าการประชุมครม.เศรษฐกิจไม่มีความจำเป็น แต่มั่นใจว่าทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำในทุกวันนี้

เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการกำหนดกรอบเวลาทำงานหรือไม่ว่า 100 วันจะมีผลงานอะไรออกมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอพิจารณาก่อน ยังไม่มีการพูดคุยตรงนั้น แต่ยืนยันว่าจะเห็นผลงานอย่างแน่นอน

นายเศษฐา กล่าวด้วยว่า วันนี้เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการเฟ้นหาบุคคลที่จะมารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าได้แล้วและจะมีการพูดคุยอย่างดี จะได้ไม่ต้องสับสน พูดกลับไปกลับมา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนและสื่อสับสนได้ ส่วนจะเป็นใครนั้น ขอเวลาอีกนิด เดี๋ยวได้ทราบ

เมื่อถามว่าตำแหน่งข้าราชการการเมืองอื่นๆ จะแต่งตั้งเลยหรือไม่ในการประชุมครม.นัดแรก นายเศรษฐา กล่าวว่า คงมีบางส่วนด้วย เพราะหลายหน่วยงานเตรียมเรื่องไว้แล้ว และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่สำคัญและตนจะคุยกับคณะทำงานว่ามีเรื่องอะไรบ้างว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่นายกฯต้องทำ แล้วมาไล่เรียงความสำคัญ แต่อยากให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยแถลงครั้งเดียวจะได้ไม่เกิดความสับสน

ผู้สื่อข่าวถามถึงพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยมีหลายเรื่องที่หาเสียงไว้แต่ไม่ได้บรรจุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้รอดูและฟังจากการแถลงนโยบาย วันนี้เข้าใจการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะต้องอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ และไม่กังวล หากจะพูดซักและจี้ถามในรัฐสภา ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราอาสาเข้ามาทำงานก็ต้องพร้อมให้ถูกตรวจสอบ และถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น

นายเศรษฐา เผยด้วยว่า บ่ายวันนี้จะหารือร่วมกับเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลุงทุน หรือ บีโอไอ โดยจะหารือในประเด็นการลงทุนระหว่างประเทศว่ามีข้อติดขัดอะไรหรือไม่เพราะเรื่องการลงทุนกับต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศษฐกิจ จากนั้นมีกำหนดเข้าพบและหารือกับ เอกอักคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ขอให้มั่นใจว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่

ที่มา: khaosod