Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและเป็น CEO ของบริษัท MicroStrategy ซึ่งหลายคนในวงการคริปโตอาจรู้จักเขาในฐานะคนที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในศักยภาพของ Bitcoin ในระยะยาว
Saylor ได้โพสต์ภาพบนแพลตฟอร์ม X ที่แสดงให้เห็นว่า ค่าเงิน fiat ของประเทศต่าง ๆ กำลังอ่อนตัวลง เมื่อนำมาเทียบเงินดอลลาร์ ในช่วง 10 ปี
พร้อมกันนี้ Saylor ยังให้เขียนแคปชั่นไว้ด้วยว่า “ถ้าคุณเข้าถึงเงินดอลลาร์ไม่ได้ Bitcoin คือเสื้อชูชีพของคุณ”
จากรูปที่ Saylor โพสต์เป็นการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงิน fiat เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าสกุลเงิน fiat ส่วนใหญ่ในโลกต่างอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยสกุลเงินที่อ่อนค่าลงมากที่สุดคือ สกุลเงินโบลิวาร์ ของเวเนซุเอลา ที่ลดลงมากถึง 99.9998%
สำหรับประเทศไทยนั้น สกุลเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยลดลง 14.6% ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหลายประการ เช่น ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น ทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาแข่งขันได้น้อยลง และทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น
โดยสาเหตุของการอ่อนค่าของสกุลเงินนั้นมีหลายประการ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูง เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางการเมือง หรือภาวะสงคราม
นอกจากนั้นปัจจุบันธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายแก้ปัญหาเงินเฟ้อแบบเข้มงวด ส่งผลให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินของประเทศอื่น ๆ อ่อนค่าลง
Bitcoin กลายเป็นเสื้อชูชีพ ท่ามกลางวิกฤตเงิน fiat ที่อ่อนค่า
จากสถานการณ์นี้ Bitcoin อาจกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีระบบการเงินที่อ่อนแอหรือถูกคว่ำบาตร
Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งตามมูลค่าตลาด ซึ่งสิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นอันดับ 1 นั้นมาจากคุณสมบัติความหายากของ Bitcoin โดยมีอุปทานเหรียญจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ รวมถึงการที่ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือธนาคารใด ๆ จึงทำให้ Bitcoin สามารถรักษามูลค่าของตนได้แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
กรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า Bitcoin สามารถเป็นเสื้อชูชีพให้ทุกคนรอดตายได้เช่น กรณีที่เวเนซุเอลาประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและอัตราเงินเฟ้อสูง ผู้คนจำนวนมากหันมาใช้ Bitcoin ในการชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสกุลโบลิวาร์ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถรักษามูลค่าของตนไว้ได้
นอกจากนี้ ในบางประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามหรือความขัดแย้งทางการเมือง Bitcoin สามารถใช้เป็นช่องทางในการส่งเงินช่วยเหลือไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
หากย้อนกลับไปดู 10 ปีที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin สามารถให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ และปัจจุบัน Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตัวเดียวที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่ามีศักภาพเติบโตเพิ่มขึ้นในระยะยาว
ที่มา: twitter