<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย มองไม่จำเป็นต้องทำ ซูเปอร์แอปฯ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่เมื่อวานนี้ มีการเลื่อนประชุมคณะอนุกรรมการเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า อาจจะต้องเลื่อนแจกเงินดิจิทัล ไม่ทัน 1 กุมภาพันธ์ 2567 เพราะรายละเอียดยังไม่ชัด ยังหาข้อสรุปเรื่องแหล่งเงินไม่ได้ และต้องพัฒนาระบบให้บล็อกเชนปลอดภัย

นายนเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องการพัฒนาซูเปอร์แอปฯ และบล็อกเชนว่า ไม่เคยมีประเทศไหนใช้บล็อกเชนในการทำธุรกรรมกับคนจำนวนมากขนาดนี้ หากทำระบบต้องเข้มแข็งมาก เพราะบล็อกเชนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกรรมจำนวนมาก นายนเรศ เหล่าพรรณราย มองว่า ใช้แอปฯ เดิมที่มีอยู่แล้วก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพัฒนาแอปฯ ใหม่

นายนเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะพัฒนาซูเปอร์แอปสำหรับจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านระบบบล็อกเชนนั้น ที่ผ่านมายังไม่เคยมีประเทศไหนนำบล็อกเชนมาใช้ในระบบการเงินที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากเป็นหลักสิบล้านคนขนาดนี้ 

ในขณะที่ประเทศไทยจะนำระบบบล็อกเชนมาใช้กับประชาชนกว่า 50 ล้านคน ซึ่งนายนเรศ เหล่าพรรณราย ได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาจากประเทศสิงคโปร์ที่เริ่มทดลองใช้เงินดิจิทัลในการใช้จ่ายจริง ๆ แต่จำนวนประชากรของสิงคโปร์มีเพียงประมาณ 5 ล้านคนเท่านั้น โดยน้อยกว่าประเทศไทยเป็น 10 เท่า 

นายนเรศ เหล่าพรรณราย แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของเสถียรภาพของระบบบล็อกเชน ระบบอาจล่มเนื่องจากบล็อกเชนไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมาก แต่เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมเฉพาะกลุ่มมากกว่า

ซึ่งเขาได้ยกตัวอย่างการทำธุรกรรมระหว่างประเทศว่า โดยปกติแล้วจะใช้เวลานาน และมีค่าธรรมเนียมสูง แต่บล็อกเชนสามารถทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมน้อยลง หากนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้เดินซื้อของตามร้านค้าทั่วไป นายนเรศ มองว่าไม่จำเป็นต้องใช้บล็อกเชนก็ได้ เพราะระบบการเงินปัจจุบันเพียงพออยู่แล้วที่จะสามารถรองรับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่

นายนเรศ เหล่าพรรณราย กล่าวว่า เห็นด้วยหากรัฐบาลจะพัฒนาระบบบล็อกเชนมาใช้ในการทำธุรกรรม แต่ควรทำเป็นทางเลือกมากกว่า ไม่ใช่ให้คนทั้งประเทศใช้ 

อย่างไรก็ตาม นายนเรศกล่าวถึงวิธีการใช้งานระบบบล็อกเชนว่า ในฐานะผู้ใช้ไม่น่าเป็นห่วง สามารถใช้สแกนจ่ายเหมือนกับที่เคยใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง แต่เป็นห่วงร้านค้าผู้ประกอบการ ซึ่งรัฐต้องเร่งทำความเข้าใจ เนื่องจากหลายคนยังมีความกังวลว่าจะมีความยุ่งยากในการแลกเงินเป็นเงินสด

ที่มา : pptvhd36