รายงานล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ระบุว่า SEC ฟ้องดำเนินคดีบริษัท SafeMoon และทีมผู้บริหาร ฐานฉ้อโกงและการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน โดยในขณะนี้ CEO และ CTO ของบริษัท SafeMoon ถูกจับกุมโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
SEC ฟ้องดำเนินคดีโปรเจกต์ SafeMoon และทีมผู้บริหารทั้งหมด
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา คำฟ้องของ SEC ระบุว่าจำเลยทั้งหมดได้สัญญาว่าจะทำให้ราคาเหรียญ “ไปถึงดวงจันทร์อย่างปลอดภัย” แต่แทนที่จะสร้างผลกำไร พวกเขากลับทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงถอนสินทรัพย์คริปโตมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์ และยักยอกเงินของนักลงทุนไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
ขณะเดียวกัน คำฟ้องร้องของ SEC ระบุว่า SafeMoon ทำการตลาดโดยรับประกันกับนักลงทุนว่า เงินจะถูกล็อกไว้อย่างปลอดภัยขณะที่ถืออยู่ใน liquidity pool ของ SafeMoon พร้อมทั้งยืนยันว่า “ไม่มีใครสามารถถอนเงินออกมาได้ รวมถึงทีมผู้บริหาร SafeMoon” อย่างไรก็ตาม เงินส่วนใหญ่ใน liquidity pool กลับไม่เคยถูกล็อก และทีมผู้บริหารก็นำเงินหลายล้านดอลลาร์ไปซื้อรถ McClaren, ท่องเที่ยวหรูหรา, บ้านหรู และสิ่งของฟุ่มเฟือยอื่น ๆ
นอกจากนี้ คำฟ้องของ SEC ยังชี้ให้เห็นว่าราคาเหรียญ SafeMoon (SFM) พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 55,000% ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม ถึง 20 เมษายน 2021 และมีมูลค่าตลาดเกิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะร่วงลงเกือบ 50% เมื่อทุกคนรับรู้ความจริงเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2021 ว่า liquidity pool ของ SafeMoon ไม่ได้ถูกล็อกตามที่บริษัทกล่าวอ้าง
หลังจากนั้น John Karony CEO ของ SafeMoon และ Thomas Smith CTO ของ SafeMoon ก็ถูกกล่าวหาว่าแอบนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปซื้อเหรียญ SafeMoon เป็นจำนวนมากเพื่อพยุงราคาและแทรกแซงตลาด ขณะเดียวกัน Karony ยังถูกกล่าวหาด้วยว่าใช้บัญชีเว็บเทรดในการซื้อและขายเหรียญ SafeMoon เพื่อทำให้กิจกรรมตลาดดูน่าประทับใจในสายตานักลงทุน ซึ่งเป็นวิธีการที่เรียกว่าปั่นราคา
ทั้งนี้รายงานดังกล่าวยังไม่ได้ระบุว่า SEC สั่งปรับเงินทีมผู้บริหารทั้งสามคนของโปรเจกต์อย่าง Kyle Nagy, John Karony, และ Thomas Smith SafeMoon เป็นจำนวนเงินเท่าไร แต่เงินค่าปรับและเงินชดเชยที่อาจถูกเรียกจะขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาคดีของศาลและการตัดสินของผู้พิพากษา
การจับกุมผู้บริหารของ SafeMoon
ในวันนี้ (2 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ของ DOJ บุกจับกุม CEO และ CTO ของบริษัท SafeMoon ในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ต่อผู้บริหาร พร้อมทั้งความผิดฐานยักยอกเงินของลูกค้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวในขณะที่อ้างว่าเงินของนักลงทุนถูกล็อกอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังคงกำลังตามหาตัวผู้ก่อตั้งอย่าง Kyle Nagy
John Karony และ Thomas Smith ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดฉ้อโกงหลักทรัพย์ สมคบคิดฉ้อโกงโดยใช้คอมพิวเตอร์ และสมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน ซึ่งการจับกุมในข้อหาทางอาญาครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ SafeMoon และทีมผู้บริหารทุกคนเผชิญกับข้อหาละเมิดหลักทรัพย์ที่ถูกฟ้องร้องโดย SEC
ผลกระทบต่อราคาเหรียญ SafeMoon (SFM)
ตามข้อมูลจาก CoinGecko ขณะนี้ราคาเหรียญ SafeMoon (SFM) ซื้อขายกันอยู่ที่ 0.000098277713 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่ลดลงกว่า -49.9% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และลดลงประมาณ -46.6% เมื่อเทียบกับมูลค่าเมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้
SafeMoon: อดีตเหรียญสุดกาวที่เคยโด่งดังในโลกคริปโต
SafeMoon คือโปรโตคอล DeFi ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน deflationary utility token โดยเหรียญ SafeMoon (SFM) จะทำงานบนมาตรฐานโทเค็น BEP-20 ที่สร้างขึ้นบน Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งดึงดูดนักลงทุนด้วยฟีเจอร์หลายอย่างที่โดดเด่น เช่น รางวัลคงที่ ผลตอบแทนจาก liquidity pool และกลยุทธ์การเผาเหรียญ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 เหรียญดังกล่าวได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในชุมชน Reddit Facebook หรือ Twitter ไม่เว้นแม้แต่เหล่าคนดังยูทูปเบอร์ต่างประเทศก็ให้ความสนใจเช่นกัน โดยในช่วงสัปดาห์ที่กำลังเป็นกระแสอย่างบ้าคลั่งในโลกออนไลน์ ราคา SafeMoon (SFM) ได้พุ่งขึ้นเกือบ 700% ในเวลาเพียงแค่ 7 วัน
นับตั้งแต่เปิดตัว เหรียญ SafeMoon (SFM) มีผู้ถือครองมากกว่า 2.5 ล้านคนและสภาพคล่องมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ โดยตามข้อมูลจาก CoinMarketCap SafeMoon ยังถือเป็นโปรเจกต์ DeFi ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย ทั้งนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการดำเนินคดีครั้งล่าสุดนี้จะส่งผลให้อนาคตของโปรเจกต์ดังกล่าวดำเนินต่อไปในทิศทางใด
ที่มา: sec, coindesk, coinmarketcap