อ้างอิงจากรายงานของ Bloomberg ซึ่งได้อ้างถึง รายงานของธนาคารดอยช์ (Deutsche Bank) ที่ได้ทำการสำรวจถึงความคิดเห็นของนักลงทุนในเรื่องราคา และความผันผวนของตลาด Bitcoin
โดยผลสำรวจจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม ซึ่งกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,000 คน จากทั้งสหรัฐฯ,สหราชอาณาจักร และยูโรโซน คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin จะลดลงต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ ในปีนี้ ขณะที่อีก 25% กลับมองในแง่บวก และคาดว่าราคาจะอยู่ระหว่าง 40,000 – 75,000 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้ และอีก 10% มองว่าราคาจะคงตัวในระดับ 20,000-40,000 ดอลลาร์
Marion Laboure และ Cassidy Ainsworth-Grace นักวิเคราะห์ของ Deutsche Bank กล่าวว่า Bitcoin Spot ETFs นั้นควรจะเป็นการเปิดช่องทางให้เหล่าสถาบันเข้ามาลงทุนใน Bitcoin แต่ข้อมูลนั้นกลับพบว่าคนที่ลงทุนใน ETF นั้นยังคงเป็นรายย่อยมากกว่ารายใหญ่อยู่ดี
ภายในรายงานยังได้ให้ความกระจ่างถึงสาเหตุที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นถึง 49,000 ดอลลาร์ในวันที่ 11 มกราคม อันเป็นผลมาจากความตื่นเต้นจากการเปิดตัวกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin (ETFs) ในสหรัฐอเมริกา โดยจุดสูงสุดนี้ถือเป็นมูลค่าสูงสุดของ Bitcoin นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 อย่างไรก็ตาม การได้มีการขายออกในเวลาต่อมาทำให้ราคาของ Bitcoin ลดลงมากกว่า 18% ทำให้ราคาลดลงเหลือประมาณ 39,800 ดอลลาร์ ในวันที่ 24 มกราคม
นอกเหนือจากความเห็นของนักลงทุนรายย่อยแล้ว บุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงการลงทุนบางรายก็เห็นด้วยเช่นกันกับการที่ราคาของ Bitcoin จะลดลงต่อเนื่อง เช่น Jim Cramer พิธีกรขวัญใจชาวสวน ที่ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาต่อ Bitcoin อีกครั้ง และคอมเมนต์ลงบนแพลต์ฟอร์ม X ว่า “ตอนนี้ Bitcoin ก็ทำราคาลงมากกว่า 20% แล้ว เขาคิดว่าควรจะมีการประคองราคาได้แล้ว แต่ถึงมีก็คงได้ไม่นานเพราะไม่มีเงินเข้ามาหนุนเพิ่ม ดังนั้นราคาลดฮวบแน่” แน่นอนว่าการทวีตของเขาต้องมีผลกลับตาลปัตรเสมอ โดยชาวเน็ตกลับยิ่งคาดหวังว่าขาขึ้นของ Bitcoin จะยิ่งมาเร็วขึ้นแน่ ๆ ถ้า Cramer พูดแบบนี้
ที่มา : Crypto Globe