หลังจากราคาพุ่งทะลุ 64,000 ดอลลาร์ Bitcoin แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนหลากหลายกลุ่ม ท่ามกลางกระแสขาขึ้นนี้ Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital Holdings ได้แบ่งปันมุมมองของเขาว่าราคา Bitcoin อาจมีการปรับฐานระยะสั้น ลงมาอยู่ที่ระดับ 50,000 ดอลลาร์กลางๆ
การคาดการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Bitcoin กำลังพุ่งทะยานอย่างมาก จากระดับต่ำกว่า 45,000 ดอลลาร์ ในช่วงต้นเดือนมกราคม และล่าสุดแตะระดับสูงสุดที่ 64,000 ดอลลาร์
ซีอีโอของ Galaxy Digital Holdings กล่าวว่า พฤติกรรมล่าสุดของตลาดเป็นช่วงของ “การค้นพบราคา” ซึ่งเกิดขึ้นบางส่วนจากการเปิดตัวกองทุน Bitcoin spot ETF ซึ่งดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่เข้ามาในตลาด
แม้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่ Novogratz ก็ยังคงเน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการใช้เลเวอเรจในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่เขามักเรียกว่า “กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z” ที่หลงใหลในผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า
“มีคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z จำนวนมากที่ลงทุนแบบ YOLO (You Only Live Once) และพวกเขาบางคนจะได้กำไร แต่หลายคนก็จะขาดทุนย่อยยับ”
นอกจากนี้ Novogratz ยังชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการซื้อขายที่รุกหนักของกลุ่มคนเหล่านี้อาจนำไปสู่การปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงที่แฝงอยู่ของกลยุทธ์การลงทุนด้วยเลเวอเรจสูง
ข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่า หลังจากราคาบิทคอยน์ร่วงลงจากจุดสูงสุดที่ 64,000 ดอลลาร์ มีการล้างพอร์ตรวมมูลค่าเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ภายใน 24 ชั่วโมง ส่งผลให้นักเทรดเดอร์ 100,000 คนต้องเผชิญกับการขาดทุน
สถานการณ์นี้เป็นตัวอย่างของความเสี่ยงสูงในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรุนแรงสามารถส่งผลกระทบทางการเงินที่สำคัญต่อนักลงทุน
Novogratz ยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการใช้เลเวอเรจระหว่างตลาดขาขึ้นในปี 2021 และสภาวะตลาดปัจจุบัน โดยระบุว่า ในขณะที่สถาบันการเงินลดการใช้เลเวอเรจลง แต่นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มด้านนอก ก็ยังคงเทรดด้วยเลเวอเรจสูงซึ่งมีความเสี่ยงสูง
ที่มา: bitcoinist

