ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap พบว่า ราคา Bitcoin มีความผันผวนเป็นอย่าง หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) ใหม่เมื่อวานนี้ (5 มีนาคม) โดยพุ่งขึ้นไปแตะที่ $69,300 ก่อนจะร่วงดิ่งแตะระดับที่ต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ภายในวันเดียว
ซึ่งหลังจากนั้นราคา Bitcoin ได้มีการฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 66,000 ดอลลาร์ซึ่งส่งผลให้ราคาลดลงเพียง 1.19% ในรอบ 24 ชั่วโมง
ตลาด Future ปั่นป่วน
ข้อมูลจาก Coinglass เปิดเผยว่า มีนักลงทุนโดนล้างพอร์ตจากการเทรด Bitcoin Future เป็นมูลค่า 310 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยที่ประมาณ 70% ของบัญชีที่ถูกล้างพอร์ตเป็นคำสั่งซื้อทางฝั่ง Long

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยังส่งผลให้ Open Interest (OI) ของ Bitcoin ลดลงอย่างมาก โดย Santiment รายงานว่า มี OI มูลค่าประมาณ 1.46 พันล้านดอลลาร์ถูกชำระบัญชีในช่วงหลังจากที่ราคาแตะจุดสูงสุด ซึ่งคิดเป็นการลดลง 12%
อย่างไรก็ดีปัจจัยสำคัญในการลดลงของ OI มาจากการชำระบัญชีของฝั่ง Long ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 70,000 ดอลลาร์,การปิดสัญญาฝั่ง Long เพื่อทำกำไรก่อนที่ราคาจะถึง ATH และการชำระบัญชีของฝั่ง Short ที่เดิมพันว่าราคาจะไม่ถึงจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หรือนี่เป็นสัญญาณบวก?
Santiment มองการพัฒนาครั้งนี้ในแง่ดี โดยหวังว่าอิทธิพลของตลาด Derivatives ที่มีต่อราคา Bitcoin จะลดลง และช่วยให้ราคา Bitcoin สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากอัตราเงินทุนของ Binance แสดงให้เห็นว่า ฝั่ง Long ยังคงเป็นฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่า โดยยังคงมีการวางคำสั่งซื้อจำนวนมากที่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาครั้งต่อไปในบริเวณนี้จึงน่าจับตามอง
อาจเกิดความเสียหายเพิ่มเติมตามมา
ราคาที่ร่วงลงส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของเครือข่ายลดลงเหลือ 97% หลังจากที่เคยแตะ 100% ในวันก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ 30-day MVRV Ratio หรืออัตราส่วนกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเฉลี่ยก็ลดลงเหลือ 15.13%

ที่น่าสนใจคือ นักวิเคราะห์เทคนิคชื่อดัง Ali Martinez ได้เตือนถึงสัญญาณขาลงของ MVRV ที่ตัดผ่านเส้น 18% ซึ่งเกิดขึ้นก่อนราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงในวันอังคารที่ผ่านมา
Martinez ได้คาดการณ์ว่า “ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ทุกครั้งที่ MVRV ตัดผ่านเส้น 18% ราคา BTC จะร่วงลง 24% ถึง 55%” แม้ว่าคำทำนายจะเป็นจริง แต่ผู้ที่ถือครอง Bitcoin (ฝั่งขาขึ้น) ก็ยังคงหวังว่าราคาจะไม่ร่วงลงแรงเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา
ที่มา: ambcrypto

