<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดวลเดือด! Bitbot หรือ ChainGPT คริปโตถูกและดีตัวไหนมีศักยภาพจะพุ่ง 100 เท่ามากกว่ากัน?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาด AI ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ และมีมูลค่าตลาดที่ก้าวกระโดด ในวงการที่กำลังเป็นที่นิยมวงการนี้ มีสองผู้เล่นหลักที่มีความโดดเด่นทั้ง Bitbot และ ChainGPT ซึ่งทั้งสองโปรเจกต์ต่างเป็นที่ทราบกันดีในด้านของการนำ AI มาใช้กับคริปโต โดย Bitbot ปัจจุบันอยู่ในเฟสที่  14 ของการ Presale และสามารถระดมทุนไปได้แล้วถึง 3.8 ล้านดอลลาร์ เรามาดูกันว่า คริปโตราคาถูกตัวไหน มีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 เท่า

ChainGPT คืออะไร ?

ChainGPT มาในรูปแบบของแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยจะใช้สัญญา smart contract ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดของมนุษย์ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการประมวลผลธุรกิจที่ซับซ้อน นอกจากนั้น ChainGPT ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่จะช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกในด้านบล็อกเชน ซึ่งช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์การลงทุนเชิงลึก

แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมา เพื่อให้เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยหน้าตาการใช้งานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ทำให้ ChainGPT มีความน่าสนใจต่อผู้ใช้ในวงกว้าง โดยในช่วงนี้ ChainGPT ราคากำลังลดลงครั้งใหญ่ ซึ่งราคาได้ลดลงหลังจากที่พุ่งขึ้นไปทำราคาสูงสุดอยู่ที่ 0.556 ดอลลาร์ ในวันที่ 12 มีนาคม 

ในขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาโทเค็น ChainGPT  เพิ่มขึ้น 50% ในระยะเวลาหนึ่งปี และค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ซึ่งโปรเจกต์ยังมีโอกาสในการขยายตัว โดยเฉพาะในด้านของการส่งเสริมประสิทธิภาพหน้าตาการใช้งาน รวมถึงการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่ส่วนนี้ทำให้ Bitbot ดูเหมือนว่าจะมีข้อได้เปรียบมากกว่า

Bitbot คืออะไร?

Bitbot มีเป้าหมายที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบอทเทรดคริปโตผ่านฟีเจอร์ AI ที่เป็นสิทธิบัตรของโปรเจกต์ และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง โดยข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Bitbot ก็คือ Gem Scanner ด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ Bitbot กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สำหรับทั้งนักเทรดหน้าใหม่ และนักเทรดที่มีประสบการณ์ ผู้ใช้งานสามารถสแกนในตลาดเพื่อหาโทเค็นที่มีศักยภาพ ด้วยการใช้ การรวบรวมข้อมูล, Machine learning และการวิเคราะห์พิเศษ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเทรดได้อย่างมีไดนามิกและมีความมั่นใจ ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเชิงลึก ที่ปกติแล้วจะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะกับนักลงทุนระดับสถาบันเท่านั้น

Gem Scanner ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย แม้แต่มือใหม่ก็สามารถเริ่มเทรดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ ‘Gem Discovery Channel’ ที่จะแสดงโทเค็นที่กำลังเป็นเทรน โดยจะทำการตัดสิน จากข้อมูลหลาย ๆ แหล่ง ซึ่งเครื่องมือ AI ตัวนี้ จะทำการมอบหมาย  ‘degen score’ ให้กับโทเค็น แล้วจัดอันดับตามกิจกรรมในตลาดและความนิยม นอกจากนั้น Bitbot ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูง อย่าง Sniping tool และยังมีความสามารถในการ Copy ความเคลื่อนไหวของนักเทรดอันดับต้น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมโอกาสในการเทรด ก่อนที่ Bitbot จะกลายเป็นที่สนใจของผู้ใช้งานทั่วไป

นอกจากนั้น ในฐานะบอทเทรด Telegram แบบ Non-custodial ตัวแรก Bitbot ยังช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ จนกว่าการเทรดจะถูกดำเนินการ นี่จะเป็นการช่วยป้องกันผู้ใช้งานจากความเสี่ยงของการแฮ็ก และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับบอทเทรดคู่แข่ง

ไม่ใช่แค่นั้น

Bitbot ยังมีจำนวนผู้ติดตามบน Social Media จำนวนมาก โดยมีจำนวนผู้ติดตามบน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X กว่า 80K+ และสมาชิกในช่อง Telegram กว่า 26K+ รวมถึงยังมีโมเดลการแชร์รายได้ที่น่าสนใจ ซึ่ง 50% ของค่าธรรมเนียมการเทรดจะถูกมอบให้กับผู้ถือโทเค็น นี่จะเป็นการเพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยความแข็งแกร่งของชุมชนจะมาช่วยผลักดัน ความแข็งแกร่งของราคาโทเค็นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ Bitbot ยังทำให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัด Ask Me Anything (AMA) กับทีมนักพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยังมีการโพสต์อัปเดตบน Medium อยู่เป็นประจำ

เข้าตลาดในเวลาที่เหมาะสม

ตลาดคริปโต AI กำลังร้อนแรง ภายในระยะเวลาปีเดียว มูลค่าของตลาดเพิ่มขึ้นจากที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นไปถึง 26.4 พันล้านดอลลาร์ ทำลายสถิติโดย Bitcoin จากการรายงานของผู้จัดการการลงทุน VanEck ได้ระบุว่า รายได้จากโปรเจกต์เหล่านี้อาจสูงถึง 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2030

วงการที่กำลังได้รับความนิยมนี้ ยังได้รับการสนับสนุนด้วยจากการเติบโตของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Alphabet และ Microsoft การเติบโตในเชิงบวกนี้ เน้นย้ำให้เห็นว่าทำไม Bitbot จึงเข้ามาในตลาดได้ในเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเป็นโอกาสในการทำกำไรให้กับผู้ถือครองโทเค็น BITBOT อย่างไรก็ตามทั้ง Bitbot และ ChainGPT ถือเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด AI

เปรียบเทียบ Bitbot และ ChainGPT

Bitbot มีข้อได้เปรียบอย่างมาก ในด้านศักยภาพในการลงทุน เห็นได้จากเรื่องราวความสำเร็จของโปรเจกต์ที่กำลังกลายเป็นผู้ครองตลาดในวงการบอทเทรด อย่าง Banana Gun และ Unibot ซึ่งสามารถทำราคาเพิ่มขึ้นไปถึง 80 เท่า และ 200 เท่า จากราคาในช่วงเปิดตัว ซึ่ง Bitbot มีฟีเจอร์ที่เหนือกว่า จึงมีการคาดการณ์ว่า Bitbot จะสามารถทำราคาได้ยอดเยี่ยมกว่านั้น

สำหรับตลาดขาขึ้นในปัจจุบัน ดูมีเหตุผลมากที่จะลงทุนใน Bitbot ซึ่งกำลังอยู่ในช่วง Presale และมีศักยภาพที่ราคาจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ 50 เท่า ถึง 100 เท่า เมื่อเปิดตัวบนเว็บเทรดคริปโตยอดนิยม  โดยตลาดยังมีความลอยตัว จากผลด้านเศรษฐกิจที่เพิ่งเกิดขึ้น รวมถึงแผนการซื้อคืนของรัฐบาลสหรัฐ

ChainGPT ถือว่า มีมูลค่าตลาดรวมสูงอยู่แล้ว โดยผ่านช่วงเวลาที่โตกว่า Bitbot ซึ่ง Bitbot ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของวงจรชีวิต จึงมีโอกาสการทำกำไรมากกว่า ในการเข้าสู่ตลาดคริปโต AI ที่กำลังเป็นที่นิยม

Bitbot คือ อนาคตของคริปโต AI ในตลาดบอทเทรด 

ในขณะที่ตลาด AI เติบโตขึ้น Bitbot ถือเป็นตัวเลือกด้านการลงทุนที่เหนือกว่า ด้วย AI ขั้นสูงใน Gem Scanner และชุมชนที่แข็งแกร่ง รวมถึง Bitbot มาพร้อมกับนวัตกรรมและศักยภาพการสร้างมูลค่าในระยะยาว และปัจจุบันบอทเทรด Telegram ก็มีปริมาณการเทรดสะสมเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 6 เดือน นี่แสดงให้เห็นได้ชัดว่า อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโต

การ Presale ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง Bitbot มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง รีบคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ และเข้าลงทุนในคริปโต AI ชั้นนำ จากราคาลดพิเศษเพียง 0.0189 ดอลลาร์ ที่กำลังอยู่ในเฟสสุดท้ายของการ Presale

นักลงทุนสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม และซื้อโทเค็น BITBOT ได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์