บริษัทการลงทุน Vanguard หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาด ETF ไม่มีแผนที่จะเปิดตัวกองทุน Crypto ETF ใด ๆ การตัดสินใจนี้มาจากผู้บริหารระดับสูง โดยซีอีโอ Salim Ramji ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า Vanguard ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมกระแสสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เป็นการเดินตามรอยเท้าของ BlackRock
เมื่อถูกถามถึงแนวทางของ Vanguard ในการขยายข้อเสนอรวมถึงความเป็นไปได้ในการเปิดตัวกองทุน ETF สกุลเงินดิจิทัล Ramji กล่าวว่า:
“ผมจะไม่ลอกเลียนแบบคู่แข่ง สิ่งที่สำคัญคือบริษัทต้องคงความสอดคล้องกับตัวตนของพวกเขา โดย Vanguard ต้องลองคิดในมุมของลูกค้า ผมต้องการนวัตกรรมที่มากกว่านี้ ดังนั้นเราจะไม่เปิดตัวกองทุน ETF สกุลเงินดิจิทัล”
การตัดสินใจของ Vanguard ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะบริษัทนี้มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นการเสี่ยงโชคมากกว่าการลงทุนที่มั่นคง พวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ให้ความสำคัญกับตลาดนี้อย่างจริงจัง
ตามที่ Vanguard กล่าวไว้ คริปโตเคอร์เรนซีขาดปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มักจะเป็นตัวสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ พวกเขามองว่าคริปโตเป็นการเก็งกำไรที่มีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพอร์ตการลงทุน
สำหรับ Vanguard พวกเขามุ่งเน้นไปที่การให้บริการนักลงทุนระยะยาว แนวทางของบริษัทถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนออมเงินมากขึ้นและทำการใช้จ่ายน้อยลง และพวกเขายังคงยืดมั่นในหลักการดังกล่าวอยู่
บริษัท Vanguard มีประวัติของการหลีกเลี่ยงการลงทุนที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ถึงแม้ในช่วงเวลานั้น การลงทุนเหล่านี้จะได้รับความนิยมอย่างมากก็ตาม อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ Vanguard ไม่ได้เข้าร่วมในช่วงฟองสบู่อินเทอร์เน็ต และยังคงหลีกเลี่ยงตัวเลือกการลงทุนที่เป็นการเก็งกำไรอื่นๆ อยู่ตลอดมา
การตัดสินใจนี้สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ระยะยาวของลูกค้าเป็นอันดับแรก แม้ว่าจะต้องพลาดโอกาสที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นโอกาสใหญ่ก็ตาม
ในขณะเดียวกันนั้นเอง คู่แข่งคนสำคัญของ Vanguard อย่าง BlackRock ได้ทุ่มสุดตัวกับเทรนด์นี้ โดยได้เปิดตัวกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งเป็นกองทุน Bitcoin ETF แบบสปอตในเดือนมกราคม และมันก็คุ้มค่าสำหรับพวกเขา
ปัจจุบันกองทุน Bitcoin ETF ของ BlackRock ได้รับกระแสเงินที่ไหลเข้ามาอย่างมหาศาล โดยมียอดลงทุนถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว และภายในเดือนพฤษภาคม IBIT กลายเป็นกองทุน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการบริหารสินทรัพย์เกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ที่มาข่าว:crpyopolitan
- ที่มาภาพ:businessinsider