<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

HBO เผยตัวตน “Satoshi Nakamoto”ผ่านสารคดี เล็งเป้าไปที่ Peter Todd แต่เจ้าตัวยืนยันไม่ใช่!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สารคดีใหม่จาก HBO “Money Electric: The Bitcoin Mystery” ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการคริปโตเคอเรนซี่ทั่วโลก โดยสารคดีชุดนี้ระบุว่าผู้ที่อาจจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ที่ปิดบังตัวตนมานานกว่าทศวรรษนั้น คือ Peter Todd นักพัฒนาบิทคอยน์ชื่อดังและอดีตนักพัฒนาหลักของโปรเจค Bitcoin Core แต่ทว่าหลังจากการเผยแพร่สารคดีเพียงไม่นาน Todd ก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างชัดเจนผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter)

จุดเริ่มต้นของความลึกลับที่กินเวลานานนับสิบปี

การค้นหาตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto ถือเป็นหนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ปี 2010 เมื่อผู้สร้าง Bitcoin ได้หายตัวไปจากชุมชนออนไลน์อย่างไร้ร่องรอย และนับตั้งแต่นั้นมา ผู้เชี่ยวชาญและนักสืบทั่วโลกต่างพยายามไขปริศนานี้อย่างต่อเนื่อง สารคดีจากผู้กำกับ Cullen Hoback คนเดียวกับที่เคยเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังทฤษฎีสมคบคิด QAnon ในสารคดีเรื่อง “Q: Into the Storm” ได้เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ Satoshi Nakamoto พร้อมนำเสนอบทสัมภาษณ์บุคคลที่น่าสนใจหลายคน ซึ่งสารคดีนี้ถูกวางตัวให้เป็น “การสืบสวนระดับโลก” ที่จะนำไปสู่การไขความลับที่ใหญ่ที่สุดของโลกคริปโตเคอเรนซี่

Todd ตกเป็นเป้าสายตาในสารคดี

ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงของสารคดี “Money Electric: The Bitcoin Mystery” Hoback ได้เปิดเผยเบาะแสที่น่าสนใจหลายอย่างเกี่ยวกับบุคคลที่อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงของ Nakamoto ก่อนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ Peter Todd อย่างจริงจังในช่วงท้ายของสารคดี แม้ว่าในระหว่างการพูดคุยกันระหว่าง Todd กับผู้กำกับจะดูคลุมเครือและเหมือนเป็นการล้อเล่นกันมากกว่าการยอมรับก็ตาม แต่ผู้กำกับ Hoback ก็เชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีของ Todd

การปฏิเสธที่มาพร้อมข้อกังขา

หลังจากที่สารคดีได้ถูกเผยแพร่ออกไป Peter Todd ได้ออกมาแสดงความเห็นในทันทีผ่านแพลตฟอร์ม X เพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างชัดเจน เขากล่าวว่า “ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการสร้าง Bitcoin เลย” ซึ่งทำให้เรื่องนี้ยิ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันมากขึ้นในโลกออนไลน์ มีทั้งผู้ที่เชื่อว่านี่อาจเป็นเพียงการปฏิเสธเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง และผู้ที่มองว่าสารคดีนี้เป็นเพียงการสันนิษฐานที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ

Satoshi Nakamoto คือใคร? ปริศนาที่ยังไม่ถูกไขอย่างแท้จริง

แม้ว่าผู้กำกับ Cullen Hoback จะพยายามวิเคราะห์ข้อมูลและสัมภาษณ์บุคคลหลายคนที่มีความเกี่ยวข้องกับชุมชน Bitcoin ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าใครคือ Satoshi Nakamoto แม้จะมีผู้ถูกเสนอชื่อหลายคน เช่น Len Sassaman, Nick Szabo, Adam Back และ David Kleiman ซึ่งแต่ละคนต่างก็ถูกคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นผู้สร้าง Bitcoin ได้ทั้งหมด

สารคดีนี้ยังตั้งคำถามต่อเหตุผลที่ทำให้ Nakamoto ตัดสินใจปกปิดตัวตนของตนเองมานานขนาดนี้ ซึ่งหากว่าเขายังมีชีวิตอยู่จริง Nakamoto จะครอบครองบิทคอยน์จำนวนมากถึง 1.1 ล้านบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 68,000 ล้านดอลลาร์ นับว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ความลึกลับที่สร้างมูลค่ามหาศาล

การที่ Nakamoto ยังคงเป็นบุคคลปริศนาตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเชื่อว่าผู้สร้าง Bitcoin นี้น่าจะเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถเก็บความลับได้อย่างดีเยี่ยม หรือไม่ก็เป็นกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกันภายใต้ชื่อ Satoshi Nakamoto เพื่อสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงโลกการเงินไปตลอดกาล

สารคดีที่กระตุ้นความอยากรู้

ก่อนที่สารคดีนี้จะออกอากาศ มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกคริปโต ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม Polymarket ได้ทำการคาดเดาว่าใครจะเป็นบุคคลที่สารคดีระบุว่าเป็น Nakamoto ซึ่งมีการคาดเดาชื่อมากมายและมีการซื้อขายเดิมพันด้วยมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ Todd ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ถูกคาดการณ์ในช่วงแรก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นตัวเลือกที่สารคดีชี้เป้าอย่างจริงจัง

Peter Todd เป็น Satoshi Nakamoto จริงหรือ?

แม้ว่า Hoback จะสร้างกรณีที่น่าสนใจและน่าติดตาม แต่ความคลุมเครือและการปฏิเสธของ Todd ทำให้หลายคนมองว่านี่อาจจะเป็นเพียงการสร้างความสนใจเพื่อเรียกเรตติ้ง หรือเพื่อเปิดประเด็นการถกเถียงต่อไปในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ Hoback ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไม่ว่าผู้ชมจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ประเด็นนี้จะถูกพูดถึงอีกยาวนานและสร้างความขัดแย้งแน่นอน”

ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เรื่องราวของ Satoshi Nakamoto ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ถูกคลี่คลายอย่างสมบูรณ์ และอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีใครไขปริศนานี้ได้อย่างแท้จริง

ที่มา : theblock , ที่มาภาพ : cryptobriefing