แฉบอสดิไอคอนใกล้ชิดผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล เซ่นไหว้เทวดาด้วยเงินคริปโต เตือน “บอสพอล” รีบให้ข้อมูล เหตุเทวดาเริ่มไม่ปลื้ม-อาจอยู่ในอันตราย!
วันที่ 15 ต.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด แถลงข่าวว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกปกปิด รวมทั้งข้อมูลการจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ที่สายลับซึ่งเป็นคนใกล้ตัว “บอสพอล”มาให้ข้อมูลกับเพจสายไหมต้องรอด
โดยนายเอกภพ บอกว่า มีผู้เสียหายคนหนึ่งทักมาที่เพจสายไหมต้องรอด โดยบอกว่าเคยอยู่ในเครือข่ายของดิไอคอน ร่วมทำตั้งแต่ก่อตั้งดูหลังบ้านต่างๆ
แฉบอสดิไอคอนใกล้ชิดผู้ใหญ่ในรัฐบาล เซ่นไหว้ด้วยเงินคริปโต
โดยเขามีข้อมูลว่าบริษัมนี้รวมถึงบอส มีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล มีการดูแลกัน ซึ่งใช้คำว่าเทวดา มีการเซ่นไหว้เทวดาอยู่ โดยใช้เงินสดแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล เป็น USDT ซึ่งสายลับคนนี้มีหลักฐานว่าไปเบิกเงินสดที่ไหน ไปแลกเงินคริปโตเป็น USDT ที่ไหน
ส่วนทำไมต้องเป็นเงินดิจิทัล USDT นั้นเนื่องจากสกุลเงินนี้ค่อนข้างเสถียรมาก 1 USDT เทียบเท่ากับ 1 ดอลลาร์ จึงใช้สกุลเงินนี้ฮิตมาก และกลุ่มที่รับแลกเงินสกุลนี้ก็เป็นจีนเทา
ทั้งนี้ตนจะพาตัวสายลับคนดังกล่าวไปให้ข้อมูลกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นในตัวของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และขอให้ทำเรื่องนี้ให้ปรากฎ ซึ่งตนมองว่าผู้ใหญ่ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตามไปรับเงินตรงนี้แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อนตนถือว่าใช้ไม่ได้ แล้วถ้าวันนี้ยังมีใครโทรศัพท์มาหาตนเพื่อให้ไม่พูดถึงใครวันนี้ตนจะเอ่ยชื่อ และขอฝากไปยังแม่ข่ายและบอส 3 คน ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในเรื่องนี้ว่า วันนี้บอสใหญ่เขาเอาคุณเป็นเหยื่อ และโดยสถานการณ์นี้ตนเชื่อว่าเหยื่อมักจะไม่รอด
ดังนั้นควรรีบมาให้ข้อมูล รวมถึง “บอสพอล” นั้น การที่มีคลิปหลุดออกมาตนเชื่อว่าไม่ได้หลุดออกมาจากฝั่งที่เรียกรับเงิน และคิดว่าบอสน่าจะทราบดีว่าหลุดออกมาจากฝั่งไหน และวันนี้ตนเชื่อว่าเทวดาไม่ปลื้มบอสแล้ว เพราะเขามีความกังวลว่าการเจรจาของเขากับคุณอาจมีการบันทึกเสียงไว้ พราะฉะนั้นการที่คุณหายไปเขาจะปลอดภัย ดังนั้นวันนี้ต้องมาร่วมกันให้ข้อมูลว่าใครเรียกรับเงินจากคุณบ้าง
คุณเชื่อเถอะครับว่าเทวดาไม่ปลื้มคุณแล้วตั้งแต่คลิปเสียงนั้นหลุดมา คุณอยู่ในอันตรายด้วยเช่นเดียวกัน วันนี้คุณออกมา เอา USDT ที่คุณมี ทรัพย์สินที่คุณมีไปขายแล้วมาชดใช้คืนให้กับประชาชนที่ยากลำบากซะ แล้วมาเปิดว่าใครที่อยู่เบื้องหลังให้คุณทำธุรกิจแบบนี้ ใครที่กินเครื่องเซ่นไหว้ของคุณไปได้ ออกมาเปิดเลยครับแล้วคุณจะปลอดภัย และว่าไปตามกลไกกฎหมาย
เมื่อถามว่าเทวดาเป็นคนพรรคการเมืองไหน นายเอกภพ บอกว่า ถ้าพูดพรรคก็รู้เลย พูดไม่ได้ แต่อยากฝากบอกผู้ใหญ่ในรัฐบาลทั้งรัฐบาลก่อน และรัฐบาลปัจจุบัน ว่าหยุดกระทำแล้วไม่ต้องให้หน้าเสื่อไปติดต่อแทนคุณ และฝากบอกผู้ใหญ่ใน สคบ.ด้วยว่าทำอะไรอยู่ระวังเขาเปิดเผยขึ้นมาจะหน้าหงายกันหมด และฝากตำรวจบางหน่วยงานที่รับเครื่องเซ่นอยู่ให้หยุดกระทำ เพราะเรื่องนี้เกิดความเสียหายโดยรวม
ผมเชื่อว่าวันนี้เทวดาเก่ง ไม่ได้ให้เขามีทรัพย์สินที่มันจับแตะต้องได้ แต่เป็นสกุลเงินหมด แต่ถ้ากลับใจก็เอาสกุลเงินนี้ขายซะแล้วกลับใจเอามาคืนให้กับผู้เสียหายยังทัน
เมื่อถามว่าเทวดาคนนี้ยังเป็นรัฐบาลอยู่ไหม นายเอกภพ บอกว่า ตอบไม่ได้ ถ้าตอบไปเดี๋ยวรู้ แต่เทวดามีอำนาจมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาให้รัฐมนตรีคนหนึ่งเป็นหน้าเสื่อคอยคุยเรื่องนี้ โดยเทวดาคนดังกล่าวเป็นผู้ชาย ซึ่งวันนี้ข้อมูลทั้งหมดจะให้ไว้ที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
เมื่อถามว่าของเซ่นไหว้เทวดามีอะไรบ้าง นายเอกภพ บอกว่า เทวดาชอบกินเงินดิจิทัล
นายเอกภพ บอกอีกว่า การที่บอสพอลบอกเมื่อวานว่ามสมาชิกอยู่ 3-4 แสนคน แต่ตนมีข้อมูลว่าขนาดสมาชิดในปี 2565 ยังมีเลขสมาชิกกว่า 5 แสนคนแล้ว แล้วในปี 2566-67 ที่มีดารานักร้องไปช่วยโปรโมทจะมีสมาชิกเพิ่มมาอีกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวตนยังไม่เชื่อว่าจะมีสมาชิกแค่นั้น นอกจากนั้นที่บอสอ้างว่าต้องเปิดบิลกับบริษัทนั้นตนก็มีหลักฐานว่ามีการเปิดบิลกับแม่ทีมด้วย
ที่มาข่าวและภาพ:PPTVHD