นักลงทุนคริปโตกำลังแห่เข้าร่วม ICO หรือการพรีเซลของ Vantard (VTARD) กันอย่างล้นหลาม หลังจากที่โทเคน VTARD สามารถระดมทุนได้สูงถึง 202,000 ดอลลาร์ ภายในเพียง 5 วันแรก ซึ่งยังไม่รวมเงินทุนจากรอบ Pre-Seed ก่อนหน้านี้ที่ระดมทุนได้ครบ 500,000 ดอลลาร์ ภายในไม่กี่นาที
Vantard ถือเป็นโปรเจกต์แรกของคริปโตที่นำเสนอ ดัชนีเหรียญมีมบนโลกบล็อกเชน โดยเครื่องมือการลงทุนแบบคลิกเดียวที่รวมโทเคนมีมผลตอบแทนสูงสุดในตลาดขณะนี้ โดยมูลค่ารวมของเหรียญมีมปัจจุบันทะยานสู่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมกับผลตอบแทนปีนี้ (YTD) สูงถึง 17,000% ซึ่งทำให้วงการอื่น ๆ ในตลาดคริปโตดูน้อยหน้าไปเลย
โปรเจกต์นี้ให้คำมั่นว่า จะนำเสนอการลงทุนที่ง่ายดายแบบ TradFi หรือโลกการเงินแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับโอกาสทำกำไรจากราคาที่อาจพุ่งสูงอย่างบ้าคลั่งของเหรียญมีม ซึ่งคาดว่าจะร้อนแรงยิ่งขึ้นในปีหน้า ทำให้บรรดานักลงทุนคริปโตต่างจับตามอง เรามาดูรายละเอียดกันว่าทำไม Vantard จึงเป็นโปรเจกต์ที่ไม่ควรพลาด!
Vantard ทำให้เหรียญมีมเป็นเรื่องง่าย ?
Vantard นำเสนอการลงทุนแบบดัชนีเป็นครั้งแรกในโลกของเหรียญมีม ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทรนด์ Supercycle ของเหรียญมีม ที่กำลังเปลี่ยนโฉมวงการคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ
หากคุณติดตามวงการคริปโต คงทราบถึงโทเคนมีมมากมายที่สร้างผลตอบแทนมหาศาลภายในเวลาอันสั้น เช่นสัปดาห์ที่แล้ว โทเคนน้องใหม่ GNON สามารถพุ่งสูงถึง 3000x ในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งมีนักเทรดรายหนึ่งเปลี่ยนเงินเพียง 3,000 ให้กลายเป็น 9 ล้านดอลลาร์
แม้ผลตอบแทนจะน่าดึงดูดใจ แต่การเฟ้นหาโทเคนที่มีศักยภาพไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป คุณจะแยกแยะเหรียญที่มีโอกาสพุ่งจากเหรียญที่เสี่ยงต่อการล้มเหลวได้อย่างไร ก่อนที่จะมี Vantard นักลงทุนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเจาะลึกชุมชนบนโซเชียลมีเดีย X และเฝ้าดูกราฟด้วยตนเอง แต่ตอนนี้ Vantard จะเข้ามาช่วยทำงานหนักเหล่านี้แทนคุณแล้ว
พอร์ตโฟลิโอของ Vantard ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแนวหน้าของวงการเหรียญมีม ผ่านการปรับสมดุลโทเคนมีมที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด เพื่อให้คุณไม่ต้องเสียเวลาศึกษาบน Web3 หลายชั่วโมง เพียงถือครองโทเคน VTARD ตัวเดียว ก็พร้อมรับผลตอบแทนที่แต่ก่อนคุณอาจได้แต่ฝันถึง
คุณเชื่อใน Supercycle ของเหรียญมีมหรือไม่
การที่นักลงทุนหลั่งไหลเข้าร่วมพรีเซลของ Vantard แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแนวคิดเรื่อง Supercycle ของเหรียญมีม ที่คาดการณ์กันว่าอาจดันมูลค่าตลาดรวมของเหรียญมีมไปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2025
ทฤษฎี Supercycle นี้มองว่า เหรียญมีมคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดคริปโตในรอบนี้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากการพุ่งขึ้นของราคาโทเคนมีมอย่างต่อเนื่อง และยังมีข้อมูลจาก CoinTelegraph ที่ระบุว่าเหรียญมีมคือ “เทรนด์ที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกคริปโต” ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ท่ามกลางความถดถอยของ Altcoins นักลงทุนรายย่อยเริ่มเบื่อหน่ายกับการถูก VC วงในขายใส่หน้า จึงหันมามองหาเหรียญมีมแทน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่จับต้องได้ เหรียญมีมยังสามารถแข่งขันกับ DeFi ได้อย่างดุเดือด แม้การทำธุรกรรมใน DeFi จะลดลงถึง 70% โดยข้อได้เปรียบของเหรียญมีมคือเทรดง่าย มีสภาพคล่องสูง ไม่ซับซ้อนด้วย Smart contracts หรือการล็อคเงิน และที่สำคัญเปิดโอกาสให้ นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
ในอนาคตอันใกล้ เหรียญมีมมีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นสูงอีก เมื่อปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคส่งผลให้สภาพคล่องทั่วโลกไหลกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดย Supercycle ของเหรียญมีม จะเริ่มต้นอย่างแท้จริงเมื่อกระแสสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และเมื่อนั้น มีมจะครองตำแหน่ง “ราชา” แซงหน้าแม้แต่ Bitcoin, หุ้น และทองคำ
วิธีการเข้าร่วม Vantard (VTARD)
ปัจจุบันโทเคน VTARD มีราคาเพียง $0.00011 ทำให้โอกาสเข้าร่วม Supercycle ของเหรียญมีม เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจกับโปรเจกต์นี้
เหรียญมีมได้แซงหน้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในโลกคริปโตอย่างไม่เห็นฝุ่น ด้วยการทำกำไรสูงถึง 1,000% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ในขณะที่สภาพคล่องทั่วโลกเริ่มไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เหรียญมีมมีแนวโน้มที่ทำมูลค่าตลาดรวมได้สูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นจุดสูงสุดในตลาดรอบนี้
Vantard คือกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โลกของเหรียญมีม โดยที่คุณไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
คุณพร้อมที่จะเข้าร่วม Supercycle ของเหรียญมีม อย่างมีสไตล์หรือยัง? เข้าร่วมรอบการระดมทุน Seed Round ของ Vantard ได้แล้ววันนี้
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>