OpenAI กำลังพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างภารกิจไม่แสวงหากำไรและหน่วยธุรกิจเพื่อผลกำไรของบริษัท โดยมีเป้าหมายเป็น Delaware Public Benefit Corporation (PBC) ซึ่งเป็นรูปแบบองค์กรที่มุ่งเน้นผลิตประโยชน์สาธารณะควบคู่ไปกับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ตามข้อมูลจากบล็อกโพสต์ล่าสุด
OpenAI ได้ระบุเพิ่มเติมในโพสต์ว่า โครงสร้างนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนด้วยเงื่อนไขที่เป็นธรรมได้ เช่นเดียวกับบริษัทในแวดวงเดียวกัน
“โครงสร้าง PBC นี้ถูกใช้โดยบริษัทหลายแห่ง และบังคับให้บริษัทต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประโยชน์สาธารณะในกระบวนการตัดสินใจ”
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังช่วยให้ OpenAI สามารถจัดตั้งทีมผู้นำและบุคลากรเพื่อดำเนินโครงการการกุศลในสาขาต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา และวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ตาม OpenAI เผชิญข้อวิจารณ์และการฟ้องร้องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงจาก Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 ซึ่งยื่นฟ้อง OpenAI และ CEO Sam Altman ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าผู้นำองค์กรละเมิดข้อตกลงการสนับสนุนเบื้องต้น และเจตนาหลอกลวง Musk ด้วยการใช้ความกังวลด้านมนุษยธรรมเกี่ยวกับ AI เพื่อร่วมก่อตั้งองค์กรที่ภายหลังกลายเป็นโครงสร้างเพื่อผลกำไร
ในขณะที่ด้าน Musk เองก็ได้เปิดตัวบริษัท AI ชื่อ xAI ซึ่งพัฒนาบอทแชต Grok โดยกล่าวว่า OpenAI ใช้แนวทางปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมทางการแข่งขัน นอกจากนี้ David Sacks ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าอาจดำรงตำแหน่ง “AI and Crypto Czar” ในรัฐบาลของประธานาธิบดี Donald Trump ได้วิจารณ์ OpenAI ว่าเปลี่ยนจากองค์กรการกุศลมาเป็นบริษัทเพื่อกำไรอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองอนาคต J.D. Seraphine CEO ของ Raiinmaker บริษัทพัฒนา AI ด้าน Web3 คาดการณ์ว่าในปี 2025 ตัวแทน AI จะมีบทบาทสำคัญในชุมชนแบบกระจายศูนย์ โดยคาดว่าจะมีตัวแทน AI กว่า 1 ล้านตัวในเครือข่ายบล็อกเชนตามการคาดการณ์ของ VanEck ผู้จัดการสินทรัพย์ในสหรัฐฯ
ที่มา: Cointelegraph