<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Metaplanet ลั่น ‘ทรัมป์’ จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศในเอเชีย จัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Simon Gerovich ซีอีโอของ Metaplanet บริษัทซึ่งถูกยกย่องว่าเป็น “MicroStrategy แห่งญี่ปุ่น” ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การสนับสนุนจากชุมชน Bitcoin เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง

“ถึงเวลาแล้วที่ Trump ต้องทำตามคำสัญญา และถ้าหากสหรัฐฯ ตัดสินใจใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรองของประเทศ ประเทศอื่น ๆ จะไม่เพียงแค่มองดูเฉย ๆ แต่พวกเขาจะต้อง ลงมือทำตามด้วยอย่างแน่นอน” Gerovich กล่าว

ด้วยความเชื่อที่ว่า Bitcoin จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก คำพูดของ Gerovich ยิ่งตอกย้ำบทบาทสำคัญของสกุลเงินดิจิทัลในยุคนี้

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา Metaplanet ภายใต้การนำของ Gerovich ตัดสินใจปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยหันมาโฟกัสที่การสะสม Bitcoin เป็นหลัก ดังนั้นหากปี 2024 เป็นปีที่โลกเริ่มมองเห็นศักยภาพของ Bitcoin อย่างจริงจัง ปี 2025 อาจกลายเป็นปีที่ Bitcoin ถูกยอมรับในฐานะ ‘สินทรัพย์สำรองระดับโลก’ อย่างแท้จริง

Trump อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแย่งชิง Bitcoin จากทั่วโลก

ซีอีโอของ Metaplanet เชื่อว่า หาก Donald Trump นำ Bitcoin มาใช้เป็นทุนสำรองของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันระดับโลกระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อทำตามสหรัฐฯ เช่นประเทศญี่ปุ่นและอื่น ๆ  โดยประเทศในเอเชียอาจเดินตามรอยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัฐบาลของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางเริ่มซื้อ Bitcoin อย่างเงียบ ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศอย่างเป็นทางการในอนาคต หากสหรัฐฯ ประกาศจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin จริง

การใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทุนสำรองแห่งชาติกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีประเทศเอลซัลวาดอร์และภูฏานเป็นผู้นำ ปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ถือ Bitcoin อยู่ประมาณ 6,000 BTC (มูลค่า 567 ล้านดอลลาร์) และภูฏานถือเกือบ 12,000 BTC (มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์) โดยใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า Donald Trump อาจเสนอแผนซื้อ Bitcoin จำนวน 200,000 BTC ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งหมดเป็น 1 ล้าน BTC

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญอยู่อีกมาก เช่น ความผันผวนของราคาของ Bitcoin ที่ขึ้นลงรุนแรง การขาดคุณค่าการใช้งานเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทุนสำรองแบบดั้งเดิมอย่างทองคำหรือพลังงาน ความไม่แน่นอนทางกฎระเบียบ และความเสี่ยงต่อการถูกปั่นราคา 

ถึงแม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้อยู่ แต่ความน่าสนใจในด้านมูลค่าที่เพิ่มขึ้นและศักยภาพของ Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” ยังคงดึงดูดความสนใจ หลังจาก Trump ชนะการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2024 ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 50% แตะระดับราคา $108,400 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ Bitcoin ในโลกการเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว