มูลค่าตลาดของ USDT ร่วงลดลงจาก 1.4 แสนล้านดอลลาร์ เหลือ 1.37 แสนล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว ท่ามกลางแรงกดดันจากกฎระเบียบ MiCA ของสหภาพยุโรปที่เริ่มมีผลบังคับใช้
ตามข้อมูลจาก CoinGecko มูลค่าตลาดของ Tether (USDT) ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด โดยครองส่วนแบ่งประมาณ 68% ของปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทั่วโลก ได้ลดลง 1.4% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงจากเกือบ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เหลือ 1.37 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงกับช่วงที่กฎระเบียบ Markets in Crypto-Assets (MiCA) ของสหภาพยุโรปเริ่มบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม
การลดลงครั้งนี้นับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของ USDT นับตั้งแต่เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งในครั้งนั้น มูลค่าตลาดดิ่งลงไปประมาณ 6% จาก 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์เหลือ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์
มูลค่าตลาด USDT
การลดลงนี้เกิดขึ้นขณะที่แพลตฟอร์มในยุโรปหลายแห่ง เริ่มdelist USDT เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ MiCA ที่มุ่งสร้างความโปร่งใสในอุตสาหกรรมคริปโต โดยกำหนดให้ผู้ออก Stablecoin ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านใบอนุญาต ความโปร่งใส และเงินสำรอง
กฎ MiCA ที่ถูกเสนอขึ้นในปี 2023 มีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการกำกับดูแลตลาดคริปโตใน 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมุ่งเน้นความโปร่งใสและเสถียรภาพในอุตสาหกรรม แต่กลับสร้างแรงกดดันให้ตลาดที่กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก โดยเฉพาะกับเหรียญ USDT ที่อาจได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดที่เข้มงวด ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูก delist จากแพลตฟอร์มในยุโรปได้ ล่าสุด Coinbase เริ่มเคลื่อนไหวด้วยการdelist USDT ล่วงหน้าเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการละเมิดกฎดังกล่าว
Vijay Pravin ซีอีโอของ bitsCrunch เผยว่า หาก Tether ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนด MiCA ได้ อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของตลาดคริปโตและกระตุ้นให้นักลงทุนเปลี่ยนไปถือครองเหรียญอื่นแทน ทั้งนี้ เขามองว่า การปรับตัวของตลาดคริปโตในช่วงนี้อาจได้รับแรงกระตุ้นจากการเข้ารับตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและพลิกฟื้นตลาดกลับมาได้ในอนาคต
ด้าน Kevin Murcko ซีอีโอ CoinMetro ชี้ว่า การลดลงของ USDT ส่วนหนึ่งเกิดจากข่าวโคมลอยที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการแบน USDT ในยุโรป ซึ่งไม่เป็นความจริง เขาเสริมว่ามีอินฟลูเอนเซอร์บางกลุ่มสร้างกระแส FUD ด้วยข่าวลือว่าการถือครอง USDT ในยุโรปจะผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างชัดเจน
แม้กฎ MiCA จะถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและเสถียรภาพให้กับอุตสาหกรรม แต่กลับกลายเป็นความท้าทายที่เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดคริปโต โดยเฉพาะเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับความนิยมอย่าง USDT ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่าการปรับตัวของตลาดในช่วงนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโตในยุโรปและทั่วโลก
ที่มา : The Defiant