สำนักข่าวในสหรัฐฯ The New York Times รายงานว่า “สก็อตต์ เบสเซนต์” มหาเศรษฐีและนักบริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดัง ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ มีแผนขายทรัพย์สินหลายอย่าง รวมถึงกองทุน Bitcoin ETF ที่ตัวเขาถืออยู่ เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในตำแหน่งใหม่ของเขา
สก็อตต์ เบสเซนต์ อดีตคนสนิทของมหาเศรษฐีสายลงทุนชื่อดัง จอร์จ โซรอส ได้ยื่นเอกสารเกี่ยวกับจริยธรรมและข้อมูลการเงินเมื่อวันที่ 11 ม.ค. เพื่อรอการยืนยันจากวุฒิสภา โดยเขาเปิดเผยว่ามีทรัพย์สินรวมกว่า 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการถือ Bitcoin ETF มูลค่าราว 250,000-500,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้เขายังมีการลงทุนที่อาจเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางผลประโยชน์ทางการเมือง เช่น เงินกู้ margin กว่า 50 ล้านดอลลาร์จาก Goldman Sachs บัญชีซื้อขายค่าเงินหยวนของจีน และหุ้นในบริษัทสื่อข่าว All Seasons
ในจดหมายถึงสำนักงานด้านจริยธรรม เบสเซนท์ ได้ให้คำมั่นว่าจะ “หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นหรือปรากฏขึ้น หากได้รับการยืนยันให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
อย่างไรก็ตาม หากเรื่องนี้ได้รับการยืนยัน ‘สก็อตต์ เบสเซนต์’ ผู้สนับสนุนคริปโต และว่าที่รัฐมนตรีคลังคนต่อไป จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนจะขยายเวลาในการลดภาษีออกไป และสั่งยกเลิกภาษีเงินได้จากสวัสดิการสังคม