<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

WhiteRock พลิกโฉม! เปิดตัวแพลตฟอร์ม Tokenization หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใน NYSE, LSE และ Nasdaq

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

WhiteRock โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการด้านการ Tokenization สำหรับหุ้นและพันธบัตร ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Tokenization สำหรับหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น NYSE, Nasdaq และ LSE พร้อมสภาพคล่องจากตลาดต้นทาง แพลตฟอร์มนี้จะช่วยเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) และการเงินแบบกระจายศูนย์ ( DeFi

WhiteRock ตระหนักถึงศักยภาพของ DeFi และ Stablecoins โดยตั้งเป้าหมายที่จะขจัดอุปสรรคต่างๆ เช่น ความกังวลด้านความปลอดภัย การขาดกฎระเบียบ และการไม่มีแพลตฟอร์มที่ทันสมัย

​​การซื้อขายบนเชนของ WhiteRock จะช่วยให้ทุกคนสามารถ Tokenize ทุกอย่างที่มีมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินทางปัญญา ป้ายทะเบียนรถ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่น ๆ 

WhiteRock กำลังสร้างโลกที่ทุกสินทรัพย์ สามารถถูก Tokenize โดยใช้ประโยชน์ และซื้อขายได้อย่างราบรื่น พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบ

Maxime Pizzolitto ผู้ร่วมก่อตั้ง WhiteRock ย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ในการสร้างโบรกเกอร์บนเชนระดับแนวหน้า ที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดในอนาคต

CEO ของ WhiteRock กล่าวว่า “หุ้นและพันธบัตรทุกตัว จะถูกระบุอย่างชัดเจนบนบัญชีแยกประเภทเดียว(a single ledger) ซึ่ง WhiteRock กำลังสร้างโบรกเกอร์บนเชนแห่งแรกที่สอดรับกับอนาคตนี้” 

หลักทรัพย์ NYSE, Nasdaq และ LSE พร้อมให้ซื้อขายบนเชน

ทีมงาน WhiteRock เปิดเผยว่า มีหลักทรัพย์มากกว่า 500 รายการ จาก NYSE, LSE และ Nasdaq ที่สามารถซื้อขายได้โดยตรง ผ่านแพลตฟอร์ม Tokenization  ด้วยปริมาณการซื้อขายรายสัปดาห์กว่า 100 ล้านดอลลาร์ การดำเนินงานของ WhiteRock เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลการเงิน และด้วยการใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน จึงมั่นใจได้ถึงความไม่เปลี่ยนแปลง (immutability), ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม

WhiteRock นำเสนอขั้นตอนการ Tokenization ที่ราบรื่น โดยยึดคติที่ว่า “ถ้ามีมูลค่า ก็สามารถ Tokenize ได้” ซึ่งขั้นตอนการ Tokenization ของ WhiteRock นั้นง่ายดาย โดยเริ่มจาก สถาบันต่าง ๆ จะส่งมอบสินทรัพย์ให้ WhiteRock ดูแล จากนั้นสินทรัพย์จะถูกแปลงเป็นโทเค็นบนเชน สุดท้ายโทเค็น จะสามารถซื้อขาย ปล่อยกู้ หรือใช้เป็นหลักประกันในระบบ DeFi ได้

WhiteRock กำลังเปิดประตูสู่การเข้าถึงหุ้น พันธบัตร และเครื่องมือทางการเงินที่ถูก Tokenize อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านล้านดอลลาร์ อนาคตของการเงินคือ โลกแห่ง Tokenization และ WhiteRock กำลังอยู่ในแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการทำให้กระบวนการง่ายขึ้น และเป็นผู้นำในการนำเครื่องมือทางการเงินแบบดั้งเดิม เข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ

โร้ดแมพของโปรเจกต์ WhiteRock

ทีมงานของ WhiteRock นำโดย Maxime Pizzolitto ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง พร้อมกับที่ปรึกษาอย่าง Maxence Ginefri, Nabil Bouanani และ Denil Bekrar ได้วางแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยแบ่งออกเป็น 5 เฟสหลัก ๆ :

  • เฟสที่ 1: เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐาน การซื้อขายที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ (กำลังดำเนินการอยู่)
  • เฟสที่ 2: เปิดตัวแพลตฟอร์มการกู้ยืม โดยใช้หุ้นและพันธบัตรเป็นหลักประกันสิ่งนี้จะช่วยให้โปรโตคอลสินทรัพย์ในโลกจริง (RWA) อื่นๆ สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้ โดยใช้โทเค็นของพวกเขาเป็นหลักประกัน
  • เฟสที่ 3: จะมีการพัฒนาและเปิดตัว USDX (United States Dollar Savings account) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่สร้างผลตอบแทนได้ของ WhiteRock โดยมีความสามารถที่เหนือกว่าบนแพลตฟอร์ม DeFi ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการรองรับการทำงานร่วมกัน (Interoperability) การเชื่อมต่อกับ DEX และกลยุทธ์สร้างผลตอบแทนที่ได้รับการปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • เฟสที่ 4: จะมีการเปิดตัว DEX ที่มีสมุดคำสั่งซื้อขายความเร็วสูง สร้างบนบล็อกเชนของ WhiteRock ที่สอดคล้องกับกฎระเบียบ เพื่อให้สามารถสร้างตลาดสำหรับสินทรัพย์ทางการเงินได้อย่างเสรีและไม่ต้องขออนุญาต
  • เฟสที่ 5: จะเปิดตัวแพลตฟอร์ม Tokenization ที่รวมทุกสินทรัพย์เข้าด้วยกันทั้งอสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เข้ามาอยู่บนเชน หากสิ่งใดมีมูลค่า จะสามารถถูก Tokenize และซื้อขายบน WhiteRock ได้อย่างง่ายดาย

ที่มา  : coindesk