คุณพิชัย จาวลา นักลงทุนผู้คิดค้น “ทฤษฎีผลประโยชน์” ได้ปรากฏตัวในรายการ Money Chat เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนถึงความเสี่ยงของฟองสบู่ในสินทรัพย์ 3 ประเภท ได้แก่ ทองคำ, บิตคอยน์ และหุ้นอินเดีย ที่จะเกิดขึ้นในปี 2025
ในช่วงต้นของคลิป คุณพิชัยเล่าว่า หากมองจากปัจจัยพื้นฐาน เขาเองก็อยากจะพูดให้เหมือนกับทุกคนว่า ราคาทองคำจะต้องพุ่งไปถึง $3,000-$4,000 และบิตคอยน์อาจทะลุ $100,000 หรือแม้กระทั่งไป $1,000,000 แต่ความคิดเหล่านี้มันขัดกับหลัก “ทฤษฎีผลประโยชน์” เพราะเมื่อคนส่วนใหญ่มองว่าราคาจะขึ้นต่อ นั่นอาจเป็นสัญญาณสำคัญว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่
ทฤษฎีผลประโยชน์คืออะไร ?
ทฤษฎีผลประโยชน์ คือ แนวคิดที่ไม่ได้บอกคุณว่าจะเลือกหุ้นตัวไหน แต่ช่วยให้เข้าใจว่าราคาหุ้นมันขึ้นลงด้วยเหตุผลอะไร ถ้าเข้าใจตรงนี้ คุณก็จะมองเห็นภาพใหญ่ได้ว่าเมื่อไหร่ตลาดมีแนวโน้มจะขึ้นหรือลง ซึ่งทฤษฎีนี้เชื่อว่า คนส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจในทางเดียวกัน และคนส่วนน้อยที่คิดต่างเท่านั้นที่จะได้กำไรในระยะยาว
หลักสำคัญของทฤษฎีนี้ คือ การเป็นคนส่วนน้อยในเวลาที่คนส่วนใหญ่กำลังกลัวหรือโลภจนเกินไป เช่น ถ้าคนส่วนใหญ่แห่ขายหุ้นเพราะกลัวจนตลาดพัง คนส่วนน้อยจะเป็นคนซื้อ ในขณะที่ทุกคนซื้อเพราะคิดว่าราคาจะพุ่ง คนส่วนน้อยก็จะขาย ซึ่งอาจดูเหมือนขัดเหตุผลในตอนนั้น แต่สุดท้ายแล้วราคามักจะเคลื่อนไปในทิศทางที่ทำให้คนส่วนน้อยได้ประโยชน์
นอกจากนี้ ทฤษฎียังบอกว่าการใช้เหตุผลตรงไปตรงมาอาจไม่เหมาะกับตลาดเก็งกำไร เพราะราคามันไม่ได้เคลื่อนไหวตามตัวเลขเศรษฐกิจหรือข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นผลจาก “การตัดสินใจ” ของคนในตลาด เราไม่ต้องวิเคราะห์ข่าวเอง แต่ให้วิเคราะห์ว่าคนส่วนใหญ่มองข่าวอย่างไร แล้วทำสิ่งที่ตรงข้ามในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งนี่แหละคือหัวใจของการเล่นกับระบบผลประโยชน์ในตลาดการเงิน
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า “คนส่วนใหญ่คิดอะไรกันอยู่” ?
คุณพิชัยจึงให้คำตอบว่า คุณเชื่อมั้ย นักลงทุนแทบทุกคน ประมาณ 98% ไม่ว่าจะเป็นนักลงระยะสั้น หรือระยะยาว ต่างดูกราฟทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่ากราฟเป็นเรื่องง่ายนะ แต่พวกเขาดูกัน ดังนั้น ถ้าคุณจะเข้าใจวิธีคิดของคนส่วนใหญ่ คุณต้องรู้เรื่องกราฟ และเพื่อใช้กับทฎษฎีผลประโยชน์
โดยสรุปแล้ว คุณพิชัยใช้ “ทฤษฎีผลประโยชน์” หรือเรียกอีกชื่อว่า “ทฎษฎีของคนส่วนน้อย” ซึ่งจะมีจำนวนเพียงแค่ 3% ในตลาดที่ร่ำรวยจากการลงทุน เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่า ทองคำ, บิตคอยน์ และหุ้นอินเดีย คือ ฟองสบู่ที่กำลังจะแตกในปีนี้
- ที่มา:Moneychat