OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Gov ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ
ถือเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท OpenAI นับตั้งแต่มีการเปิดตัวเวอร์ชันสำหรับองค์กร
ChatGPT Gov ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft และถูกออกแบบมาให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงกว่า ChatGPT Enterprise เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ สามารถป้อนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและเป็นส่วนตัว เข้าสู่โมเดล AI ซึ่งยังอยู่ภายใต้ระบบคลาวด์ที่ปลอดภัยของตนเอง
นับตั้งแต่ต้นปี 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มมีการนำ AI มาประยุกต์ใช้งาน เพิ่มมากขึ้น โดยพนักงานรัฐกว่า 90,000 คน จากหน่วยงานภาครัฐกว่า 3,500 แห่ง ได้ใช้งาน ChatGPT ไปแล้วมากกว่า 18 ล้านครั้ง โดยนำไปใช้กับงานต่าง ๆ เช่น
- ห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศสหรัฐฯ (Air Force Research Laboratory) ใช้ ChatGPT Enterprise เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงทรัพยากรภายใน โดยใช้เขียนโค้ดเบื้องต้น และช่วยฝึกอบรมเกี่ยวกับ AI
- ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอสอะลามอส (Los Alamos National Laboratory) ใช้ ChatGPT Enterprise ในการทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์
- รัฐมินนิโซตา ใช้ ChatGPT Team ในการแปลภาษาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น พร้อมลดต้นทุนและระยะเวลาดำเนินการ
- เครือรัฐเพนซิลเวเนีย (Commonwealth of Pennsylvania) ใช้ ChatGPT Enterprise ในโครงการนำร่องเกี่ยวกับ AI เพื่อช่วยลดเวลาทำงานในงานเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลโครงการ ฯลฯ ซึ่งพบว่า ผู้ใช้งานสามารถลดเวลาทำงานไปได้เฉลี่ย 105 นาทีต่อวัน
ความสามารถของ ChatGPT Gov
ChatGPT Gov มีอินเทอร์เฟซ ที่คล้ายกับ ChatGPT Enterprise แต่หน่วยงานรัฐจะสามารถใช้งานผ่าน Microsoft Azure Commercial Cloud หรือ Azure Government Cloud เพื่อให้สามารถจัดการด้าน ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และข้อกำหนดด้านกฎหมาย ได้ง่ายขึ้น รวมถึงรองรับมาตรฐาน Cybersecurity ระดับสูง เช่น IL5, CJIS, ITAR และ FedRAMP High
ChatGPT Gov มาพร้อมฟีเจอร์เดียวกับ ChatGPT Enterprise ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานรัฐ ได้แก่
- ใช้ บันทึกและแชร์การสนทนา ภายในระบบของหน่วยงาน
- ใช้ อัปโหลดไฟล์ข้อความและรูปภาพ เพื่อให้ AI วิเคราะห์
- GPT-4o โมเดล AI อัจฉริยะ ช่วยในการสรุปข้อมูล วิเคราะห์ภาพ คำนวณ และเขียนโค้ด
- Custom GPTs ใช้ปรับแต่ง AI ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของแต่ละหน่วยงานและแชร์ภายในหน่วยงานได้
- ระบบจัดการผู้ใช้งาน ช่วยให้ฝ่าย IT ควบคุมการเข้าถึง และความปลอดภัยได้ง่ายขึ้น
AI กับความท้าทายในภาครัฐ
อย่างไรก็ตามแม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็ต้องเผชิญกับข้อกังวล เช่น ความเป็นส่วนตัว และ อคติในการใช้งาน เช่น กรณีการใช้ AI ในงานตำรวจที่นำไปสู่การจับกุมที่ผิดพลาด หรือระบบ AI ที่อาจสร้างความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย
OpenAI รับทราบถึงข้อกังวลเหล่านี้และยืนยันว่า ChatGPT Gov จะอยู่ภายใต้นโยบายการใช้งานที่เข้มงวด รวมถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดย FedRAMP ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับเทคโนโลยีในภาครัฐ
อนาคตของ ChatGPT Gov
Felipe Millon ผู้บริหาร OpenAI คาดว่า ChatGPT Gov จะพร้อมใช้งานอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยหน่วยงานรัฐในด้าน กลาโหม ตำรวจ และสาธารณสุข จะได้รับประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ OpenAI ยังมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มให้ได้รับมาตรฐาน FedRAMP High และขยายการใช้งานไปยัง Azure’s Classified Regions ในอนาคต เพื่อให้ภาครัฐสามารถนำ AI มาใช้ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น