ในโลกของ AI ที่กำลังแข่งขันกันดุเดือด Deepseek สตาร์ตอัป AI จากจีน กำลังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนเกมของทั้งอุตสาหกรรม
โดยล่าสุด คุณ CK CEO ของ Fastwork ได้ออกมาพูดถึงข้อมูลที่น่าตกใจว่า Deepseek สามารถทำให้หุ้น NVIDIA ร่วงหนักถึง 16% ภายในวันเดียว คิดเป็นการสูญเสียมูลค่าตลาดเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับการทำให้ มูลค่าของทั้งบริษัท Netflix (4.1 แสนล้านดอลลาร์) หายไปในพริบตา
เบื้องหลังการทำงานของ DeepSeek
คุณ CK อธิบายว่า Deepseek ใช้วิธีพัฒนา AI ที่แตกต่างจากเจ้าอื่น โดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า “Mixture-of-Expert” (MOE)
พูดง่ายๆ คือ แทนที่จะให้ AI ตัวเดียวต้องรู้ทุกเรื่อง Deepseek แยก AI ออกเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น AI ตัวหนึ่งเก่งประวัติศาสตร์ อีกตัวเก่งเขียนโค้ด เวลามีคนถามอะไร ระบบจะเลือก AI ที่เหมาะสมที่สุดมาตอบ แทนที่จะใช้พลังงานประมวลผลสูงๆ กับ AI ตัวเดียวที่ต้องคิดทุกอย่างเอง
แนวทางนี้ช่วยให้ Deepseek ทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น และที่สำคัญ ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ากว่า AI ทั่วไป
นอกจากนี้ Deepseek ยังเปิดเผยโค้ดที่ใช้ในการพัฒนา AI หรือ “OpenSource” ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการดึงดูดให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ Deepseek มากขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก โดย Deepseek-R1 มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $0.55 ในขณะที่ Open AI-o1 มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ $15 (per Million Tokens)
Deepseek ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก โดย Deepseek ใช้เงินลงทุนไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ และใช้ GPU ที่ด้อยกว่าคู่แข่ง แต่กลับสร้างโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Open AI ได้สำเร็จ
การเปิดตัว Deepseek จึงเป็นเหมือนการส่งสัญญาณเตือนไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อาทิ Nvidia, Google, Open AI และ Microsoft ว่า พวกเขาอาจใช้เงินในการพัฒนา AI ของตัวเองมากเกินไป
ที่มา:TikTok/CK Fastwork