Alon Cohen หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มเหรียญมีม Pump.fun ได้ออกมากล่าวบนโซเชียลว่า “นักเทรดที่หวังว่าวัฏจักรตลาดรอบนี้จะทำรูปแบบเหมือนรอบที่แล้วอาจต้องผิดหวัง เพราะความรู้เดิม ๆ ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้ว และแพทเทิร์นดังกล่าวอาจไม่กลายเป็นจริง”
Cohen ระบุว่าปัจจุบัน คุณสมบัติและคุณค่าของ altcoins สายเทคที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่ ไม่ต่างอะไรจากเหรียญมีม โดยจะเห็นได้ว่าเหรียญเหล่านี้มักมีรูปแบบ low float – high fully diluted value หมายความว่า จำนวนเหรียญที่ปล่อยออกมาในช่วงแรกมีน้อย ในขณะที่นำตัวเลขอุปทานทั้งหมดมาคำนวนเพื่อให้ดูมีมูลค่าเกินจริง นอกเหนือจากนั้นเหรียญเหล่านี้ยังมีนักลงทุน VC ที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามักจะใช้นักลงทุนรายย่อยเป็นเครื่องมือในการถอนทุนคืน (exit liquidity)
การที่ Cohen ออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่มีชาวคริปโตกลุ่มหนึ่งโจมตีเหรียญมีม และแพลตฟอร์มอย่าง Pump.fun ว่าเป็นตัวการหลักที่ทำให้ตลาดเกิดความบิดเบี้ยวและเกิดเหตุการณ์แบบที่ไม่ควรจะเป็น จนทำให้ Alt Season ไม่เกิดขึ้นสักที หรือไม่ก็ล้มไปเลยเหมือนเหตุการณ์ Altcoin crash ในเดือนเมษายน 2024
Cohen ยังได้กล่าวเสริมว่า ในวัฏจักรรอบที่แล้ว นักลงทุนรายย่อยต่างเจ็บตัวกันอย่างย่อยยับจากการหลงเข้ามาลงทุนกับ “อนาคตของการเงิน” ทำให้ในครั้งนี้นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากจะไม่กลับเข้ามาในตลาดคริปโตอีกเป็นครั้งที่สอง
Cohen ยังระบุอีกว่า นักเทรดส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เทรดทั้งวันเป็นอาชีพหลักแต่มีงานประจำ ไม่ได้มานั่งสนใจว่ามีเทคโนโลยีไหนรองรับสนับสนุนโปรเจกต์อยู่ โดยสิ่งเดียวที่นักลงทุนกลุ่มนี้สนใจคือ “การเติมเติมความสุข” เพียงเท่านั้น หรือก็คือต้องการที่จะเข้ามาเทรดเอาสนุก เน้นเก็งกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ เห็นได้จากอัตราการเติบโตในความนิยมของ pump.fun จากภาพด้านล่าง
![](https://siamblockchain.com/wp-content/uploads/2025/02/image-133-1024x325.png)
มีมจะเป็นตัวบ่อนทำลาย Altcoins หรือไม่ ?
จริงอยู่ว่าการมาของมีมและ Pump.fun ได้ทำให้เงินทุนจำนวนมากที่ควรจะไหลไปยัง Altcoins ถูกเทไปยังมีมจนหมดสิ้น ส่งผลทำให้ตลาดไม่ได้มีความเคลื่อนไหวแบบที่เคยเป็นมา ซึ่งข้อมูลของ Total3 indicator ที่วัดมูลค่าตลาด Altcoins ชี้ให้เห็นว่าในปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดของ Altcoins ได้ทำจุดสูงสุดครั้งแรกในเดือนมีนาคมที่ $7.88 แสนล้าน ทว่าหลังจากนั้นมูลค่าตลาดของมันก็ร่วงลงอย่างหนัก จนมาฟื้นตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสเลือกตั้งสหรัฐกำลังร้อนแรง และมูลค่าตลาดของมันก็ยังไม่กลับลงไปที่เก่า
![](https://siamblockchain.com/wp-content/uploads/2025/02/image-132-1024x641.png)
อย่างไรก็ตาม แม้นักวิเคราะห์จะมองว่ามีตลาดคริปโตมีภาวะอิ่มตัวมากเกินไป เพราะมีสกุลเงินดิจิทัลที่แข่งขันกันเพื่อแย่งชิงความสนใจจากเงินทุนที่มีจำกัด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า Altcoins จะไปไม่รอด เพราะ Altcoins บางตัวที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันจะยังคงทำผลงานได้ดีกว่า Altcoins ที่ไม่มีนักลงทุนสถาบันเข้ามาร่วมด้วย เห็นได้จากข้อมูลที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วตลอดทั้งปี 2024
ที่มา : Cointelegraph