ผู้ออก Stablecoin ยักษ์ใหญ่อย่าง Tether ได้แสดงศักยภาพทางการเงินด้วยการเข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยในสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส ซึ่งเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงในกัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อกว่า 125 ปีที่แล้วในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี
จากประกาศเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ การลงทุนนี้สนับสนุน “เป้าหมายของ Tether ในการผสานรวม Stablecoin สินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีที่เน้นมนุษย์เป็นอันดับแรกเข้ากับชีวิตประจำวัน” รายละเอียดทางการเงินของการลงทุนไม่ได้รับการเปิดเผย
บริษัทกล่าวว่ากำลังมองหา “การลงทุนเชิงกลยุทธ์” ในแฟรนไชส์กีฬา Global ซึ่งจะช่วยทำการตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและการชำระเงินให้กับผู้ใช้มากขึ้น
จากข้อมูลของ Forbes ยูเวนตุสเป็นแฟรนไชส์ฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 11 ของโลกที่ 2.05 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือนพฤษภาคม 2024 รายได้ต่อปีของแฟรนไชส์อยู่ที่ 459 ล้านดอลลาร์
การถือหุ้นของ Tether ในยูเวนตุสเกิดขึ้นหลังจากปีที่ทำลายสถิติสำหรับผู้ออก Stablecoin บริษัทมีกำไร 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 เนื่องจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 1.13 แสนล้านดอลลาร์
Stablecoin USDt USDT ของ Tether เป็น Stablecoin ที่หมุนเวียนมากที่สุดในโลกที่มากกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์
การเป็นพันธมิตรด้านคริปโตกับกีฬาเพิ่มขึ้น
บริษัทคริปโตและบล็อกเชนได้เทเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการเป็นพันธมิตรด้านกีฬา โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการรับรู้สินทรัพย์ดิจิทัลในกระแสหลัก จากข้อมูลของ CoinGecko ปี 2024 มีการเป็นพันธมิตรด้านคริปโตกับกีฬา 26 รายการ
ระหว่างปี 2021 ถึง 2024 มีการสนับสนุนคริปโตในกีฬาทั้งหมด 92 รายการ CoinGecko กล่าว
การแลกเปลี่ยนคริปโตเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดเมื่อพูดถึงกีฬา ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ Gate.io ประกาศว่ากำลังร่วมมือกับทีม Formula 1 ของ Red Bull เพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาสู่มอเตอร์สปอร์ต
ในเดือนพฤศจิกายน Crypto.com ได้สนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟ โดยมีรางวัลแรกจ่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด นี่เกิดขึ้นหลายเดือนหลังจากที่การแลกเปลี่ยนได้ลงนามเป็นพันธมิตรพิเศษกับ UEFA Champions League
ในสหรัฐอเมริกา Coinbase กลายเป็นหนึ่งในการแลกเปลี่ยนคริปโตครั้งแรกที่กลับสู่การเป็นพันธมิตรด้านกีฬาหลังจาก FTX ล่มสลาย ในเดือนตุลาคม บริษัทประกาศความร่วมมือกับ Golden State Warriors ของ National Basketball Association
ที่มา: cointelegraph