<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

ซีอีโอ Tether ลั่น! ‘Stablecoin Multiverse’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ชี้ยุคใหม่ของ Stablecoin กำลังมา

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ประกาศว่าอุตสาหกรรมคริปโตได้เข้าสู่ยุคใหม่ที่เขาเรียกว่า “Stablecoin Multiverse” ซึ่งมีการเปิดตัว Stablecoin จากทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลเพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น

โดยในโพสต์บน X เมื่อวันที่ 27 มีนาคม Ardoino กล่าวว่ายุคใหม่นี้จะเป็นการขยายตัวของ Stablecoin ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม Slava Demchuk ซีอีโอของ AMLBot กลับไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยมองว่าเป็นการกล่าวเกินจริง 

เพราะการเปิดตัว Stablecoin นั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ทรัพยากรสูง นอกจากนี้ กฎระเบียบของสหภาพยุโรปอย่าง MiCA ยังเพิ่มอุปสรรคในการเปิดตัว Stablecoin ใหม่ โดยกำหนดให้ต้องมีทุนสำรองและโครงสร้างการบริหารจัดการที่เข้มงวด

https://twitter.com/paoloardoino/status/1905174158117319107

Demchuk ยังเตือนว่าการเพิ่มขึ้นของ Stablecoin จะนำไปสู่ความท้าทายด้านกฎระเบียบ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ขณะที่ MiCA ทำให้ตลาดยุโรปมีความชัดเจน ทางสหรัฐฯ กลับยังอยู่ในช่วงถกเถียง ทำให้เกิดช่องว่างของกฎระเบียบที่อาจผลักดันให้บริษัทไปดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีกฎเกณฑ์ผ่อนปรนกว่า ซึ่งอาจกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

ซึ่งในโพสต์ถัดมา Ardoino เปิดเผยว่า Tether มีผู้ใช้งานมากถึง 400 ล้านคนทั่วโลก และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 1 พันล้านในอนาคตอันใกล้ เขาย้ำว่า Tether เติบโตจากการทำงานร่วมกับชุมชนโดยตรง ต่างจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมที่มองวงการคริปโตจากระยะไกล

https://twitter.com/paoloardoino/status/1905174925242962050

ในขณะที่ Vasily Vidmanov ซีโอโอของ PureFi มองว่าคำทำนายของ Ardoino อาจไม่สมเหตุสมผลนัก โดยเฉพาะหลังจากที่ USDT ถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มในสหภาพยุโรป เช่น Binance, Crypto.com, Kraken และ Coinbase นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของ Tether รวมถึงการถูกตรวจสอบในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน

แม้ Ardoino จะเคยออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ในปี 2024 ว่าเป็นเพียง “ข่าวเก่า” แต่ Vidmanov ยังคงเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายระดับโลก หรือการเติบโตของตลาดคริปโตในภูมิภาคที่ยังเข้าถึงได้น้อย ตัวเลขผู้ใช้งานที่ Ardoino ตั้งเป้าไว้อาจเป็นไปได้ยากในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

ที่มา: Cointelegraph

ข่าวต่อไป