Goldman Sachs บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น โดยให้โอกาสสูงถึง 35% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิมถึง 15% พร้อมเตือนว่าแผนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่างชาติของ Donald Trump อาจเป็นชนวนสำคัญที่เร่งอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานของ CNBC ระบุว่า Goldman Sachs คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งแตะ 3.5% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตั้งไว้เพียง 2% ข้อมูลล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.8% เท่านั้น
ขณะเดียวกัน Goldman Sachs ยังคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอ และอัตราการว่างงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.5% ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เผชิญแรงกดดันจากนโยบายทางการค้า
ล่าสุด Trump ได้ประกาศ “วันปลดปล่อยของอเมริกา” โดยจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลกในวันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งหมายถึงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ย 15% กับประเทศคู่ค้าเกือบทั้งหมด แม้จะมีการคาดการณ์ว่าภายหลังการเจรจาอาจมีการยกเว้นบางประเทศและผลิตภัณฑ์ ทำให้ตัวเลขภาษีเฉลี่ยลดลงเหลือราว 9 จุดเปอร์เซ็นต์
“นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน เพราะสิ่งที่เราทำมันยิ่งใหญ่มาก เรากำลังนำความมั่งคั่งกลับคืนสู่สหรัฐฯ ซึ่งจะต้องใช้เวลา และไม่สามารถวัดผลได้แค่จากตลาดหุ้นเท่านั้น … คุณต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง เรากำลังสร้างรากฐานที่ยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต และในระยะยาวจะเป็นผลดีต่อประเทศเรา”
ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของ Trump โดยเฉพาะในด้านภาษีและการค้าระหว่างประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ และบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโตในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: DailyHODL