ประธานาธิบดี Donald Trump ได้สร้างความประหลาดใจให้วงการกฎหมายและการเงินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการใช้อำนาจอภัยโทษให้กับกระดานคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดังอย่าง BitMEX พร้อมกับบุคคลอีก 4 ราย ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มผู้บริหาร Arthur Hayes, Benjamin Delo และ Samuel Reed รวมถึงอดีตพนักงาน Gregory Dwyer
การตัดสินใจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่มีการอภัยโทษให้กับ “บริษัท” แทนที่จะเป็นเพียงบุคคลธรรมดา BitMEX ซึ่งเคยเป็นกระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซีที่โด่งดัง ได้รับสารภาพผิดในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินเมื่อปีที่แล้ว
เนื่องจากในช่วงก่อนเดือนสิงหาคม 2020 ผู้ใช้งาน BitMEX สามารถซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้ ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงแค่ใช้อีเมลที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น วิธีการนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าสร้างช่องโหว่ให้กับการฟอกเงินและการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 บริษัท BitMEX จึงถูกปรับทางอาญาเป็นเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สืบเนื่องจากการรับสารภาพผิด ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเติมจากค่าปรับทางแพ่ง 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) สั่งปรับไปก่อนหน้านี้
ในการพิจารณาโทษ ผู้พิพากษาได้ตั้งข้อสังเกตว่า BitMEX ซึ่งจดทะเบียนในสาธารณรัฐเซเชลส์ ได้กล่าวอ้างว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ มาเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าลูกค้าชาวสหรัฐฯ จะเป็นส่วนแบ่งจำนวนมากของธุรกิจก็ตาม
Damian Williams อัยการสหรัฐฯ ผู้เคยดำเนินคดีกับคดีสำคัญหลายคดี รวมถึงคดีของ Sam Bankman-Fried ระบุว่า BitMEX ได้สร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลก โดยทำการเปิดช่องให้มีการทำธุรกรรมผิดกฎหมายมากมาย
ความน่าสนใจของการอภัยโทษครั้งนี้ คือการที่ Trump ขยายขอบเขตอำนาจไปถึงนิติบุคคล ซึ่งแตกต่างจากแนวปฏิบัติเดิมที่มุ่งเน้นการอภัยโทษให้กับบุคคลธรรมดาเพื่อฟื้นฟูสิทธิพลเมืองต่างๆ เช่น สิทธิในการเลือกตั้งหรือการประกอบอาชีพ
แม้ในปี 2021 ปธน. Trump เคยออกมาประกาศว่า คริปโตเคอร์เรนซีเป็น “สแกม” แต่ปัจจุบันเขากลับมีบริษัทคริปโตเป็นของตัวเองชื่อ World Liberty Financial ที่เพิ่งเปิดตัวเหรียญล่าสุดอย่าง USD1 และสามารถระดมทุนได้ถึง 550 ล้านดอลลาร์
นักกฎหมายหลายคนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการอภัยโทษครั้งนี้ เนื่องจากแนวคิดดั้งเดิมของการอภัยโทษมาจากหลักการของ “ความมีเมตตา” ของกษัตริย์อังกฤษ ที่มุ่งช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมหรือผู้ที่ไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้ ในขณะที่บริษัทไม่สามารถถูกจำคุกหรือได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกันได้
การตัดสินใจครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ปริมาณการซื้อขายบน BitMEX พุ่งสูงขึ้นถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์ภายในหนึ่งสัปดาห์ และสร้างความกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับผลกระทบต่อความพยายามในการควบคุมการฟอกเงินผ่านระบบคริปโตเคอร์เรนซี
แม้ข้อความฉบับเต็มของการให้อภัยโทษจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่คาดว่าเรื่องนี้จะช่วยปกป้อง BitMEX จากบทลงโทษทางคดีอาญาในอนาคต และอาจเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติของบริษัทอื่นๆ ในการปฏิบัติตามกฎหมายการเงินของสหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ ปธน. Donald Trump กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งนักกฎหมายและผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองที่มองว่า อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่กว่าในการเชื่อมโยงตัวเขาเองกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ที่มาข่าว:thehill
- ที่มาภาพ:cryptotimes