ธนาคารเพื่อการลงทุนชื่อดัง Standard Chartered ออกรายงานคาดการณ์ว่า ตลาด Stablecoin ทั่วโลกอาจขยายตัวเกือบ 10 เท่า แตะระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2028 หากร่างกฎหมาย “Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins Act” หรือ Genius Act ผ่านการอนุมัติในสหรัฐฯ ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทีมวิเคราะห์นำโดย Geoff Kendrick ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยเพิ่มความชอบธรรมให้กับอุตสาหกรรม Stablecoin พร้อมคาดการณ์ว่ามูลค่ารวมของ Stablecoin จะเพิ่มขึ้นจาก 230,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน สู่ระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า
Stablecoin คือสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกกับสินทรัพย์อื่น เช่น ดอลลาร์ หรือทองคำ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในตลาดคริปโต ทั้งในด้านการเทรด และการโอนเงินข้ามประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าถึงระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้ยาก
รายงานยังระบุว่า ร่างกฎหมาย Genius Act ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม และมีแนวโน้มสูงที่จะได้รับการลงนามโดยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump กลางปีนี้
การเพิ่มขึ้นของ Stablecoin จะส่งผลต่อการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเสถียรภาพของดอลลาร์ โดยรายงานคาดว่าจะต้องมีการซื้อพันธบัตรระยะสั้น (T-bills) เพิ่มอีกถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสี่ปีถัดไป ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอจะรองรับพันธบัตรใหม่ทั้งหมดที่รัฐบาล Trump มีแผนจะออก
ความต้องการ Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์จะยิ่งกระตุ้นการใช้ดอลลาร์ในตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เสริมสร้างความเป็นเจ้าในระบบการเงินโลกของดอลลาร์ต่อไป
ปัจจุบัน Circle ผู้ออกเหรียญ USDC ถือเป็นผู้นำในโมเดลการสำรองเงินแบบนี้ โดยเก็บถึง 88% ของทุนสำรองไว้ในพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่ Tether ผู้ออกเหรียญ USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เก็บอยู่ที่ประมาณ 66% ตามข้อมูลจากรายงานเดียวกัน
ที่มา: Coindesk