บริษัทบัญชียืนยันเหรียญ Stablecoin ทองคำของ Tether (XAUT) มีทองคำหนุนหลังจริงกว่า 7.7 ตัน 

ล่าสุดเหรียญ Stablecoin ทองคำของ Tether ได้รับการยืนยันจากบริษัทบัญชี BDO Italia แล้วว่า Tether Gold (XAUT) มีทองคำจริงหนุนหลัง โดย 1 โทเค็น XAUT เทียบเท่าทองคำแท่งบริสุทธิ์ 1 ทรอยออนซ์ และมีทองคำสำรองจริงรวมมากกว่า 7.7 ตัน

มูลค่าตลาดของ XAUT ก็พุ่งทะยานตามความต้องการของนักลงทุนที่แห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้าและนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ราคา XAUT อยู่ที่ประมาณ 3,123 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ก่อนจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3,344 ดอลลาร์ในวันที่ 29 เมษายน ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของเหรียญพุ่งแตะ 825 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko

ด้าน Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่  28 เมษายน โดยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า“ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเร่งสะสมทองคำกัน หลายร้อยตัน เหรียญ XAUT ก็กำลังจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์โทเคนทองคำ ที่เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับคนทั่วไปและสถาบันการเงิน”

XAUt – Tether Gold stablecoin – first attestation is out 🪙

Highlights:
– more than 7.7 tons of physical gold backing 100% of the issued tokens
– gaining important traction in emerging markets
– several new exchange listings in the pipeline
– strong compliance
– XAUt physical… https://t.co/KDrN1KpPgx

— Paolo Ardoino 🤖 (@paoloardoino) April 28, 2025

ความต้องการ Tether Gold (XAUT) พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังนักลงทุนแห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจากสงครามการค้า โดยราคาทองคำปรับขึ้นกว่า 7% ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน หลังรัฐบาลทรัมป์ประกาศแผนขึ้นภาษีนำเข้า ขณะที่รายงานจาก World Gold Council ปี 2024 ระบุว่า 29% ของธนาคารกลางทั่วโลกมีแผนเพิ่มการถือครองทองคำในทุนสำรองภายใน 12 เดือน 

แม้ว่าการเปิดเผยข้อมูลของ Tether ครั้งนี้ จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ในแง่ความโปร่งใสให้ Tether อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ตามมาอยู่ไม่น้อย เพราะการตรวจสอบของ BDO Italia ครั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลงบการเงินหลัก หรือรายงานตามมาตรฐานสากล (IFRS) ทำให้ Gold Stablecoin ของ Tether ยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องความโปร่งใสได้เต็มร้อย 

และที่น่าสนใจคือ BDO Italia เองก็เคยมีประวัติปัญหา ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของอิตาลี (CONSOB) สั่งปรับไปถึง 250 ล้านดอลลาร์เมื่อต้นปีนี้ รวมถึงเคยถูก SEC สหรัฐฯ ฟ้องข้อหาส่งมอบรายงานการตรวจสอบที่ “เป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิด” เมื่อปี 2015 ด้วย

ก่อนหน้านี้ Tetherก็เคยมีข่าวว่า กำลังพยายามหาบริษัทบัญชี “Big 4” เพื่อทำการตรวจสอบเงินทุนอย่างเป็นทางการ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน

งานนี้ดูเหมือนว่าแม้จะมีทองคำสำรองให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ก็ยังมีคำถามใหญ่เรื่องมาตรฐานการตรวจสอบที่รอการคลี่คลายต่อไป

• ที่มา : decrypt
• ที่มารูปภาพ : financetimes