หลังจากเคยพยายามเปิดตัว Stablecoin ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ “ Libra” และภายหลังรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อเป็น “Diem” เมื่อปี 2019 แต่สุดท้ายต้องพับโปรเจกต์ไปเพราะแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ล่าสุด Meta กลับมาเดินเกมคริปโตอีกครั้ง
โดยรายงานล่าสุดจาก Fortune เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ระบุว่า Meta กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพูดคุยกับบริษัทคริปโตหลายแห่ง เพื่อประเมินการใช้ Stablecoin เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบการชำระเงิน โดยเฉพาะในกรณีการจ่ายเงินข้ามประเทศ
หนึ่งในแนวทางที่ถูกพูดถึง คือการนำ Stablecoin มาใช้จ่ายเงินให้ครีเอเตอร์บน Instagram ซึ่งอาจช่วยลดค่าธรรมเนียมเมื่อเทียบกับการใช้เงินเฟียตแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากบริษัทโครงสร้างพื้นฐานคริปโตเผยว่า Meta ยังอยู่ใน “โหมดเรียนรู้” และยังไม่ได้เลือกว่าจะร่วมมือกับผู้ให้บริการรายใด ส่วนทาง Meta เองก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อประเด็นนี้
โดยครั้งนี้ Ginger Baker ผู้บริหารหญิงมากประสบการณ์จากวงการฟินเทค ซึ่งเคยทำงานกับ Plaid และปัจจุบันเป็นบอร์ดของมูลนิธิ Stellar จะเข้ามารับหน้าที่นำทัพในความพยายามรอบใหม่ของ Meta และมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบจ่ายเงินข้ามประเทศด้วย Stablecoin
สิ่งที่น่าสนใจคือ เทรนด์ Stablecoin กำลังกลับมาอีกครั้งทั่วทั้งสหรัฐฯ ท่ามกลางความพยายามของหน่วยงานรัฐในการยอมรับ Stablecoin ให้เป็นตัวแทนดิจิทัลของเงินดอลลาร์อย่างถูกกฎหมาย โดยตอนนี้ทั้ง Fidelity, Visa และแม้แต่ Bank of America ต่างก็แสดงท่าทีสนใจ หรือเริ่มพัฒนาโครงการในทิศทางเดียวกันแล้ว
ในฝั่งของ Meta เอง แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทได้เริ่มติดต่อบริษัทโครงสร้างพื้นฐานในวงการคริปโตหลายแห่งตลอดปี 2025 นี้ เพื่อพูดคุยเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้ Stablecoin ในการลดต้นทุนค่าธรรมเนียมของการโอนเงินข้ามประเทศ โดยเฉพาะการจ่ายเงินจำนวนน้อยให้กับครีเอเตอร์หรือฟรีแลนซ์ที่ทำงานในหลายประเทศ
หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงคือ Circle ผู้ออกเหรียญ USDC ที่อาจเป็นพันธมิตรที่ Meta เล็งไว้ โดยรายงานระบุว่า Matt Cavin อดีตผู้บริหารของ Immutable ซึ่งเพิ่งย้ายมาทำงานกับ Circle ได้มีส่วนร่วมในการพูดคุยกับ Meta ด้วย
โดยล่าสุด Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ได้ออกมายอมรับบนเวที Stripe Conference ว่าโปรเจกต์ Diem นั้น “จบไปแล้ว” แต่ก็เสริมว่า Meta มักเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ แม้บางครั้งจะเข้าตลาดเร็วเกินไปหรือเจอแรงต้านจนต้องถอย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะกลับมาอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ที่มา: cryptoslate