ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินเมื่อวันพุธ (28 พฤษภาคม) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขาดอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act – IEEPA) ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้า (tariff) จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากนานาประเทศโดยให้เหตุผลว่า ทำไปเพราะต้องการปกป้องแรงงานสหรัฐฯ และรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจากคำสั่งดังกล่าวได้ทำให้เกิดความผันผวนขึ้นในตลาดลงทุนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น หรือตลาดคริปโต
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการที่กฎหมายดังกล่าวได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชน ทาง Libery Justice Center จึงได้เป็นตัวแทนบริษัทห้าแห่งในการฟ้องร้องรัฐบาลทรัมป์ในเรื่องกฎหมายภาษีนี้
จากคำตัดสินล่าสุดของศาลระบุว่า ทรัมป์ได้ใช้ IEEPA ในการอนุญาตให้ประธานาธิบดีสามารถออกคำสั่งฉุกเฉินในกรณีที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจกับประเทศที่มีการข่มขู่ ก่อการร้าย หรือการตั้งตนเป็นศัตรู ทำให้เหตุผลในการขึ้นภาษีประเทศที่มีการค้าขายเกินดุล เป็นข้ออ้างที่ไม่สามารถใช้ได้
นอกจากนี้ศาลยังระบุว่า มีเพียงรัฐสภาเท่านั้นที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการกำกับดูแลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีไม่สามารถเข้ามาล้มล้างได้ด้วยการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ประกาศแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำภาษีที่เคยเป็นองค์ประกอบสำคัญของนโยบายการค้าของตนกลับมาใช้ใหม่”
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $107,998 ลดลง 1.79% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ที่มา : Crypto briefing